เวลาที่จะซื้อระบบโปรแกรมต่างๆ เพื่อนำมาอำนวยความสะดวกให้กับการทำงาน มักจะมีค่า MA ติดมากับซอฟต์แวร์เหล่านี้ด้วย หลายคนอาจจะยังสงสัยว่าทำไมถึงต้องมีค่า MA ซื้อโปรแกรมแล้วแต่ไม่เอา MA ได้หรือไม่? ก่อนที่จะถามคำถามเหล่านี้ มาทำความรู้จักกับ MA หรือ Maintenance Service Agreement กันก่อนครับ
MA หรือ Maintenance Service Agreement เรียกง่ายๆ ว่าเป็นบริการดูแล และบำรุงรักษาระบบโปรแกรมให้อยู่ในสภาพพร้อมใช้งานตลอดเวลา หากมีการใช้งานโปรแกรมในระยะเวลาหนึ่งแล้ว อาจจะเกิดปัญหา เช่น ประมวลผลผิดพลาด (Software Bug) ไวรัสคอมพิวเตอร์ (Virus Computer) ข้อผิดพลาดเกี่ยวกับอุปกรณ์เครือข่าย (Network Device) เครื่องคอมพิวเตอร์แม่ข่าย (Server) เครื่องลูกข่าย (Client) หรือ เวิร์คสเตชั่น (Workstation) ตลอดจนระบบโปรแกรมใช้งานต่างๆ (Application Sortware) ที่อาจเกิดปัญหาได้ตลอดเวลา พูดง่ายๆ ว่าการบริการของ MA เปรียบเหมือนกับการรับประกันซอฟต์แวร์ว่าจะใช้งานได้ตลอดเวลาทำให้เกิดความมั่นใจได้ว่าโปรแกรมที่เสียเงินซื้อมานั้น จะใช้งานได้ โดยเฉพาะธุรกิจที่มีขนาดกลางจนถึงเล็กหากต้องการมี Software (ซอฟต์แวร์) ใช้งานเเต่ไม่มีทีมพัฒนาเป็นของตัวเองบริการ MA ถือว่าเป็นสิ่งที่ควรมีอย่างยิ่ง ซึ่งเมื่อนำมาคำนวณดูเเล้วอาจจะมีค่าใช้จ่ายถูกกว่าจ้างพนักงานมาดูเเลเองอีกด้วย
นอกจากนี้การให้บริการ MA ยังรวมไปถึงการใช้คำปรึกษาเกี่ยวกับการใช้งานอุปกรณ์ต่างๆ ในระบบให้ถูกต้อง การให้คำแนะนำการติดตั้ง ก็สามารถใช้บริการ MA เพื่อสอบถามข้อสงสัยในระหว่างที่ใช้งานได้ทันที ทั้งนี้ การให้บริการยังสามารถควบคุมระยะไกลผ่านระบบ Remote Service ได้อย่างสะดวกรวดเร็วอีกด้วย
ส่วนการเลือกบริษัทที่ให้บริการ MA ก็ควรจะเลือกคู่กับผู้ให้บริการพัฒนา Software ไปด้วยเลย เพราะบริษัทที่ให้บริการย่อมมีทีมงาน Support ที่มีความเชี่ยวชาญหรือมีข้อมูลของลูกค้าที่จำเป็นจะต้องทราบอยู่แล้ว จึงสามารถแก้ไขปัญหาตามที่ผู้ใช้งานต้องการได้อย่างถูกต้อง
MA สามารถแบ่งออกเป็น 2 แบบ คือ
- การบำรุงรักษาแบบป้องกัน (Preventive Maintenance)
เป็นการบำรุงรักษาที่จะทำเมื่อถึงระยะเวลาที่กำหนดไว้ หรือเมื่อถึงเกณฑ์กำหนด เพื่อลดโอกาสขัดข้องของระบบ
- การบำรุงรักษาแบบแก้ไข (Corrective Maintenance)
เป็นการบำรุงรักษาที่จะทำเมื่ออุปกรณ์ใดอุปกรณ์หนึ่งเกิดขัดข้องหรือชำรุดเสียหาย เพื่อให้ระบบทำงานได้ตามปกติ
ข้อดีสำหรับการมี MA
1. หากโปรแกรมมีปัญหาอาจจะต้องเสียค่าใช้จ่ายเทียบเท่ากับการจ้างเขียนโปรแกรมใหม่ เพราะบางปัญหาอาจจะใช้เวลาในการตรวจสอบหรือทำความเข้าใจในระบบเป็นเวลานาน
2. กรณีซื้อโปรแกรมไปใช้งานเเล้วพนักงานบริษัทลาออกอาจจะต้องมีการสอนการใช้งานใหม่ ซึ่งถ้าหากใช้งานไม่เป็นหรือไม่ถูกต้อง จะทำให้เกิดข้อผิดพลาดกับระบบได้
3. กรณี Server มีปัญหาระบบใช้งานไม่ได้เลยอาจจะสร้างความเสียหายให้กับโรงแรมได้
ทำความรู้จักกับ MA หรือ Maintenance Service Agreement ไปเรียบร้อยแล้ว ลองชั่งน้ำหนักถึงข้อดีข้อเสียของการมี MA ดูนะครับ หวังว่าคุณจะได้คำตอบแล้วนะครับว่าทำไมถึงต้องมีค่า MA และการซื้อโปรแกรมควรจะมี MA หรือไม่ครับ
อ้างอิงข้อมูลจาก
ไม่พลาดทุกข่าวสาร และบทความดีๆ จาก Smart Finder อัพเดทตรงถึงเมล์คุณ เพียงแค่กรอกอีเมล์ลงไปในช่องด้านล่างเท่านั้น
[mc4wp_form id=”6960″]
จัดทำโดย Smart Finder
Smart Finder a hotel software leader, modern innovative and best choice for your hotel.
Smart Finder ผู้นำด้านซอฟต์แวร์โรงแรมที่ทันสมัย และเป็นทางเลือกที่ดีที่สุดสำหรับโรงแรมของคุณ