การวิเคราะห์สถิติ และวัดผลทางการตลาด จำเป็นต้องอาศัยเครื่องมือ เพื่อให้สามารถวางแผนทางการตลาดได้ต่อไป ซึ่งเครื่องมือเหล่านี้ คุณจะต้องทำความรู้จักมันเอาไว้ จะได้รู้ว่าแต่ละตัวทำหน้าที่อะไรบ้าง

CPC (Cost per click)

เป็นการจ่ายเงินต่อคลิก คือ ต้องมีคนคลิกโฆษณาของเราเท่านั้น เราถึงจะเสียเงิน แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าคนที่คลิกเข้ามาจะตัดสินใจจองโรงแรมของคุณเลยนะ ทั้งนี้ ค่าใช้จ่ายก็ขึ้นอยู่กับ keyword ของเราด้วย เช่น ถ้าเรากำหนดเป็นคำว่า เสื้อผ้าแฟชั่น เมื่อมีคนคลิกเข้ามาที่หน้าเว็บ เราถึงจะเสียเงินให้ Google ส่วนราคาค่าคลิกจะขึ้นอยู่กับประเภทธุรกิจ จำนวนการค้นหาต่อเดือน อีกทั้งยังขึ้นอยู่กับประเภทธุรกิจ อัตราการแข่งขันของแต่ละ keyword และคุณภาพการทำโฆษณา ยิ่ง keyword ไหนมีการแข่งขันมากเท่าไหร่ ราคา CPC ก็จะยิ่งแพงมากขึ้นเท่านั้น

CPM (Cost per thousand impressions)

เป็นการจ่ายเงินให้ Google เวลาที่มีคนเห็นครบ 1,000 ครั้ง ส่วนราคาที่เสียนั้นก็ขึ้นอยู่กับ Google กำหนด การจะทำแบบ CPM เหมาะกับธุรกิจที่มีขนาดใหญ่ เช่น โครงการบ้านจัดสรร ที่ต้องการแค่ให้คนเห็นโฆษณาผ่านตา เพื่อสร้างการจดจำ และภาพลักษณ์เท่านั้น ซึ่งไม่ได้หวังว่าจะสามารถทำการขายได้ตั้งแต่ครั้งแรก แต่เมื่อคนต้องการซื้อบ้าน แล้วจดจำแบรนด์ได้ พวกเขาก็จะนึกถึงก่อนแบรนด์อื่นนั่นเอง

CTR (Click Through Rate)

เป็นอัตราส่วนที่แสดงว่าผู้เห็นโฆษณาของคุณคลิกโฆษณาบ่อยเพียงใด เปรียบเสมือนเป็นเครื่องมือวัดผลตอบรับของการตลาดออนไลน์ ว่าประสบความสำเร็จแค่ไหน เช่น ถ้าโฆษณาปรากฏผ่านสายตาผู้อื่นเป็นล้านครั้ง แต่มีการคลิ๊กกลับมาแค่ 1 ครั้ง นั่นก็แปลว่าโฆษณานี้ไม่ส่งผลตอบรับจากลูกค้าของคุณมากเท่าที่ควร

ซึ่งการคำนวณค่า CTR = จำนวนคลิก(Click) หารด้วย จำนวนการแสดงผล(Impression) คูณด้วย 100
ยกตัวอย่าง เช่น เว็บไซต์ ทำโฆษณาออนไลน์ กำหนดให้ปรากฏ 1 ล้านครั้ง มีคนคลิก 9 หมื่นครั้ง ค่า CTR จะได้เท่ากับ 9%

ยิ่ง% ของ CTR สูง ก็แสดงว่ามีคนคลิกมาก โฆษณานั้นมีประสิทธิภาพมากนั่นเอง

Frequency (ความถี่)

ยอดเฉลี่ยของจำนวนครั้งที่เราคาดหวังว่าจะให้กลุ่มคนเป้าหมายได้เห็นโฆษณานั้น โดยในช่วงเวลาที่กำหนดคุณอาจจะอยากให้กลุ่มเป้าหมายได้เห็นโฆษณาของคุณโดยเฉลี่ย 3 ครั้งในช่วงเวลาดังกล่าวนั่นเอง หรือถ้ายังนึกภาพไม่ออก เราอยากให้คุณนึกถึงการโฆษณาบนโทรทัศน์ ถ้าคุณซื้อโฆษณาระหว่างละครภาคค่ำ 20.00-23.00 น. คุณต้องการให้โฆษณาของคุณปรากฏบนหน้าจอโทรทัศน์กี่ครั้งภายในช่วงระยะเวลาที่กำหนดไว้ คือ ความถี่ในการยิงAds

Reach(การเข้าถึง)

จำนวนคนที่เข้าถึงโฆษณาของคุณ คุณอาจจะตั้งเป้าหมายเอาไว้ว่าอยากให้คนเห็นโฆษณาของคุณจำนวนเท่าไหร่ อยากให้เพิ่มขึ้นเท่าไหร่ ก็ต้องดูที่ Reach นี่แหละ

ที่มา : free4marketingad.blogspot.com/

www.it-guides.com/

http://www.ads-now.com/

ไม่พลาดทุกข่าวสาร บทความดีๆ อัพเดทโดนๆ กรอกอีเมล์ลงในช่องด้านล่างนี้ได้เลย แล้วทุกสิ่งทุกอย่างจะถูกส่งไปในเมล์ของคุณ
[mc4wp_form id=”1533″]