บทพิสูจน์จากหลายปีที่ผ่านมา แสดงให้เห็นแล้วว่าเทคโนโลยีมีอิทธิพลต่อการทำงานในโรงแรมมากถึงมากที่สุด และกลายเป็นอีกช่องทางที่จะเปิดประสบการณ์ใหม่ๆ ให้ผู้เข้าพัก จากภาพรวมของเฟสบุ๊คระบุว่า 80% ของโพสต์ทั้งหมดเกิดขึ้นผ่านมือถือ เพราะฉะนั้นเทรนด์เทคโนโลยีมาแน่  ซึ่งเราได้เขียนไปในบทความ เทรนด์แนวโน้มเทคโนโลยีสำหรับโรงแรมในปี 2017 แต่วันนี้เราจะขยายความกันว่ามันเกี่ยวข้องกับการนำ Software มาใช้อย่างไร

1.เน้นการทำงานด้วยระบบอัตโนมัติ

การจะลงทุนในยุคดิจิตอลแบบนี้ ควรจะต้องเป็นการลงทุนระยะยาว ซึ่งก็คงหนีไม่พ้นการลงทุนกับเทคโนโลยี ซึ่งโรงแรมของคุณจะต้องปรับตัวให้ทันยุคทันสมัย และคุณต้องเลือกอย่างชาญฉลาด (อ่าน 3 คำถามก่อนตัดสินใจซื้อเทคโนโลยีโรงแรม)

การนำ Hotel Software มาใช้ จะช่วยให้คุณบริการลูกค้าได้สะดวก และรวดเร็วมากขึ้น อีกทั้งยังช่วยลดขั้นตอนการทำงานที่ไม่จำเป็น หรือซ้ำซ้อนออกไป ที่สำคัญเวลาที่มีผู้ที่เคยเข้าพักแล้วจองเข้ามา ประวัติของลูกค้ารายนั้นยังถูกดึงมาทั้งหมดตั้งแต่ครั้งแรกที่เข้าพัก คุณไม่ต้องจำเลย ว่าแขกเคยรีเควสอะไรไว้ และยังไม่ต้องถามใหม่อีกด้วย ดูเป็นมิออาชีพขึ้นมาเลยใช่ไหมล่ะ

2.มีอินเทอร์เน็ตทั้งโรงแรม

โลกทุกวันนี้ยังไง๊ ยังไงก็หนีไม่พ้นอินเทอร์เน็ต จากผลสำรวจโรงแรมในอเมริกากว่า 98% มีอินเทอร์เน็ตถึงห้องพัก ซึ่งในการทำงานเองก็ควรจะเป็นแบบไร้สาย เพื่อให้มีความคล่องตัวด้วย

การนำ Software มาใช้ในโรงแรมโดยเชื่อมต่อกันผ่านอินเทอร์เน็ต จะทำให้การทำงานไร้รอยต่อมากขึ้น เมื่อห้องไหนถูกทำจองไปแล้ว ระบบจะอัพเดทให้ทุกคนรู้แบบ real-time แม่บ้านสามารถเปลี่ยนสถานะห้องพักได้ทันทีที่ทำห้องเสร็จ ทำให้ขายห้องต่อได้ทันที ไม่ต้องเสียเวลาโทรถามกัน หรือถ้ามีอะไรเสียหายก็ส่งต่อไปที่ระบบ PMS เพื่อแจ้งฝ่ายซ่อมบำรุงได้ เพียงแค่ใช้แอพพลิเคชั่น GetVZA

3.เช็คอินผ่านสมาร์ทโฟน

จากผลสำรวจโรงแรมในอเมริกา 65% มีบริการเช็คอินผ่านอุปกรณ์มือถือ และเทรนด์นี้จะมาแน่ๆ ในประเทศไทย เพราะโรงแรมบางแห่งก็สามารถทำได้ ผ่านแอพพลิเคชั่น GetVZA ตัวเดิม

ซึ่งการใช้ Software ตัวนี้จะช่วยเปิดประสบการณ์ใหม่ ผู้เข้าพักไม่ต้องไป Check-in ที่หน้า Front อย่างเดียว แต่สามารถ Check-in ที่ไหนก็ได้ ไม่จำเป็นต้องรอให้แขกเดินเข้ามาหา แต่คุณสามารถสร้างความประทับใจได้โดยการเดินเข้าไปเช็คอินให้ผู้เข้าพักถึงที่ได้เลย

4.การใช้โซเชียลมีเดียประชาสัมพันธ์

คนไทยเล่นเฟสบุ๊ค 41 ล้านคน(อัพเดทจากเดือนพฤษภาคม 2016) โตขึ้น 17% คิดเป็น 60% ของประชากรไทย ส่วน Facebook Page ในประเทศไทย มีมากถึง 7 แสนเพจ Twitter 5.3 ล้านราย โตขึ้น 18% ใช้ Instagram 7.8 ล้านคน โตขึ้น 74% และ Line 33 ล้านคน(ที่มา : it24hrs.com)

ในข้อนี้อาจจะไม่เกี่ยวกับ Software โดยตรง แต่จะสื่อให้เห็นว่า คนไทยใช้ช่องทางออนไลน์มากกว่าการเดินเข้าไปติดต่อโดยตรง หรือผ่านการโทร เพียงแค่ตั้งกระทู้ใน Pantip หรือผ่าน Facebook Page ของแบรนด์ ก็ได้รับการตอบกลับจากแบรนด์โดยตรง เพราะฉะนั้นเวลาคนจะหาอะไรก็จะหาทางออนไลน์ก่อนเป็นอันดับแรก เว็บไซต์ และโซเชียลมีเดียของโรงแรมจึงสำคัญ สร้างช่องทางประชาสัมพันธ์ผ่าน Social Media เยอะๆ เพื่อให้เป็นหน้าเป็นตาของโรงแรม ดึงดูดให้คนอยากกดเข้าไปที่เว็บไซต์แล้วทำการจองทันที คุณจึงต้องสร้างบ้านของตัวเอง(Website)ให้ดูดี แล้วใช้ Software ช่วยให้แขกจองห้องพักได้ง่ายขึ้น โดยมีปุ่มจอง(Booking engine) อยู่ตามจุดต่างๆ

โลกได้เปลี่ยนไปแล้ว นวัตกรรมเทคโนโลยีเป็นสิ่งที่เปลี่ยนวิถีชีวิตของคนไป ธุรกิจล้วนถูกขับเคลื่อนด้วย IT ติดต่อธุรกิจกันก็ผ่าน Skype หรือ Video Call แม้แต่การเรียนก็ยังผ่านทางออนไลน์ได้แล้ว ความรวดเร็วของโลกทำให้เราต้องกระโดดตามให้ทัน ไม่เช่นนั้นคุณอาจจะถูกทุกคนแซงหน้าไปหมด ไม่เว้นแม้แต่คู่แข่งหน้าใหม่ๆ ที่เข้ามาในวงการโรงแรม

ไม่พลาดทุกข่าวสาร บทความดีๆ อัพเดทโดนๆ กรอกอีเมล์ลงในช่องด้านล่างนี้ได้เลย แล้วทุกสิ่งทุกอย่างจะถูกส่งไปในเมล์ของคุณ
[mc4wp_form id=”1533″]