มาแล้วครับ สำหรับแคมเปญการตลาดโรงแรมน่าสนใจประจำปี 2018 ซึ่งพี่สมาร์ท คัดมาแค่เด็ดๆ 3 แคมเปญเท่านั้น ส่วนจะมีอะไรบ้าง ไปดูกันเลยครับ
1.Relax We Post จาก ibis
เปิดมากับเครือโรงแรมระดับโลกอย่าง ibis ที่เข้าใจถึงพฤติกรรมนักท่องเที่ยวในยุคนี้ว่า ทุกคนต้องการ ถ่ายรูปเพื่ออวดโลกโซเชียล แต่จะดีกว่าไหม ถ้ามีคนมาช่วยโพสต์รูป แล้วคุณก็ใช้เวลาพักผ่อนอย่างสบายใจแทน ibis ก็เลยมีบริการ Relax We Post ที่จะช่วยถ่ายรูปในมุมสวยๆ รวมถึงดูแล social account ให้ลูกค้า เพื่อให้ลูกค้าได้ไปเที่ยวพักผ่อนแบบไม่ต้องกังวลเรื่องการถ่ายภาพหรือโพสต์ลงในโซเชียล โดยปล่อยให้ทางโรงแรมจัดหา Influencer มาช่วยหามุมสวยๆ ถ่ายแล้วโพสต์ใน IG ให้เลย นอกจากนี้ยังอาสาตอบ comment ให้อีกด้วย
ซึ่ง Influencer ที่หามาก็เป็นที่รู้จักกันดีในโลกออนไลน์ของประเทศสวิตเซอร์แลนด์เอง ถือเป็นคนดังที่มียอดคนติดตามเป็นหลักหมื่นหลักแสนมาถ่ายให้ ผ่านการคิดค่าบริการเพิ่ม 90 ดอลลาร์สหรัฐ(ราว 3,000 บาท) โดยจะมีแค่ 2 สาขาในสวิตเซอร์แลนด์เท่านั้น คือเมือง Zurich และ Geneva ระหว่างวันที่ 3 พ.ย.-2 ธ.ค.
เรียกได้ว่าเป็นแคมเปญที่สร้างความแตกต่างให้กับแบรนด์ได้อย่างชัดเจนเลยทีเดียว
ผู้เข้าพักจะต้องให้ชื่อบัญชี และรหัสผ่าน Instagram รวมถึงรูปแบบการโพสต์และภาพที่ต้องการ แต่ละโพสต์จะมี Hashtag #postedbysocialmediasitter ติดอยู่ด้วย
ถือว่า ibis ตีโจทย์ในเรื่องของภาพลักษณ์บนโลก Social Media แตกจริงๆ ครับ ทำให้เห็นว่านอกจากโรงแรมจะให้บริการที่พักแล้ว ยังต้องขายประสบการณ์ให้กับผู้เข้าพักได้รู้สึกประทับใจในวันที่โรงแรมอื่นมัวแต่แข่งกันเรื่องที่พักนี่แหละ
2.แอปพลิเคชัน The Lobby จาก The Standard
จากข้อที่แล้ว ibis ได้ขายประสบการณ์ในเรื่องภาพลักษณ์บนโลก Social Media แต่ในข้อนี้ The Standard จะมาขายประสบการณ์ในการเจอเพื่อนใหม่ในโรงแรมครับ
ทุกวันนี้คนรุ่นใหม่กล้าที่จะเปิดโอกาสทำความรู้จักกับคนแปลกหน้ามากขึ้น เห็นได้จากนักท่องเที่ยวที่กล้าเดินเข้าไปหาและพูดคุยทักทายแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมเมื่อไปเที่ยวต่างประเทศ
โรงแรมในเครือ The Standard จึงมีบริการแอปพลิเคชัน The Lobby ที่เปรียบเสมือน Lobby โรงแรม ซึ่งเป็นที่พบปะพูดคุยกับคนแปลกหน้า เพียงแต่สมัยนี้เป็นยุคดิจิทัล โรงแรมก็แค่ย้าย Lobby นั้นมาอยู่บนโลกออนไลน์ซะ โดยให้กลุ่มลูกค้าในโรงแรมได้มาพบปะพูดคุยกัน หรือจะชวนกันออกไปปาร์ตี้ต่อก็ได้ เป็นการปรับตัวตามยุคสมัยนั่นเอง
สาเหตุที่ให้เฉพาะลูกค้าของโรงแรมเท่านั้นที่ใช้ได้ ก็เพื่อป้องกันไม่ให้คนภายนอกสามารถปลอมตัวเข้ามาด้วยจุดประสงค์ที่ไม่ดี แล้วลูกค้าก็ยังเลือกได้ว่าจะใช้ข้อมูลจริงหรือจะสร้างข้อมูลใหม่ขึ้นมาก็ได้ โดยลูกค้าเลือกว่าอยากจะคุยกับใคร หรือถ้าคุยแล้วไม่ชอบก็บล็อกได้ แต่ถ้าคุยกันแล้วถูกใจจะนัดกันออกไปไหนก็ตามแต่ความสมัครใจของทั้งสองฝ่ายได้เลย เผลอๆ จะพัฒนาความสัมพันธ์ไปด้วยเลยก็ย่อมได้
ดูแล้วก็น่าจะตอบโจทย์คนรุ่นใหม่ที่อาจจะยังต้องการความเป็นส่วนตัว ในขณะที่ต้องการค้นหาอะไรใหม่ๆ ไปด้วย แต่ถ้าจะบอกว่าแอป The Lobby นี้ก็สามารถมีรุ่นใหญ่ที่มารวมตัวกันเพื่อหาเพื่อนไปชมพิพิธภัณฑ์หรือไปปั่นจักรยานออกกำลังกายด้วยได้เช่นกันครับ
3.คอร์สฝึกอบรมด้าน ‘จิตวิญญาณ’ จาก The James Hotels
ปิดท้ายด้วยโรงแรมที่มีจุดขายเรื่อง “จิตวิญญาณ” ไม่ได้เป็นศาสตร์มืดที่ขายวิญญาณให้กับปีศาจแต่อย่างใด แต่เป็นการเปิดคอร์สฝึกอบรมด้าน “จิตวิญญาณ” ซึ่งโรงแรมแห่งนี้ก็คือ The James Hotels นั่นเอง คอร์สดังกล่าวก็จะมีโหราศาสตร์ผ่านไพ่ยิปซี มีโค้ชที่จะช่วยให้มีความสุข การสะกดจิตเพื่อความผ่อนคลาย หรือแม้แต่การภาวนาผ่านพลังจิต ก็มีเช่นกัน ลูกค้าก็เพียงแค่จ่ายเพิ่มเหมือนเป็นบริการเสริมของโรงแรมทั่วไป
เหตุผลที่โรงแรมกล้าออกมาเปิดจุดขายแบบนี้ ก็เพราะผลสำรวจประชากรอเมริกันในปี 2017 ได้บอกว่าคนกว่า 27% ที่เป็นกลุ่มผู้ใหญ่นั้น ไม่มีศาสนาแต่กลับเชื่อในเรื่องจิตวิญญาณแทน ซึ่งเพิ่มจากปี 2012 ที่ยังมีแค่ 11% เท่านั้น
และโรงแรมแห่งนี้มีที่ตั้งอยู่ในเมืองนิวยอร์กและชิคาโก ซึ่งตอบโจทย์เรื่องทางออกของจิตใจของคนในเมืองพอดี ปัจจุบันนี้การให้บริการดูแลแค่สุขภาพกายอย่างเดียวไม่พออีกต่อไป แต่กลายเป็นสุขภาพใจก็เป็นสิ่งที่สำคัญ เมื่อคนเราอยู่ในโลกที่เต็มไปด้วยความเครียดตลอดเวลา ใครๆ ก็อยากจะมีสุขภาพใจที่แข็งแรงทั้งนั้น
เรียบเรียงโดย : Smart Finder
แหล่งอ้างอิง :
https://brandinside.asia/ibis-and-relax-we-post
https://facebook.com/MarketingOnDaily
ไม่พลาดทุกข่าวสาร และบทความดีๆ จาก Smart Finder อัพเดทตรงถึงเมล์คุณ เพียงแค่กรอกอีเมล์ลงไปในช่องด้
[mc4wp_form id=”1533″]
