เพราะใกล้จะหมดปีแล้ว ผมก็เลยอยากจะเขียนบทความนี้ขึ้นมาวิเคราะห์เกี่ยวกับธุรกิจที่พักกันครับ ทั้งในปัจจุบัน และแนวโน้มของธุรกิจนี้ในอนาคต แต่ต้องขอออกตัวก่อนว่าทั้งหมดที่คุณจะได้อ่านต่อไปนี้เป็นความคิดเห็นส่วนตัวล้วนๆ ครับ

ในปีนี้มีธุรกิจที่พักเพิ่มขึ้นมาก ทั้งโรงแรมและที่พักอื่นๆ  อย่างคอนโดที่มีแนวโน้มจะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ตามเส้นทางรถไฟฟ้าส่วนต่อขยาย ในขณะที่ทั่วโลกก็เริ่มมีธุรกิจที่พักที่นอกเหนือจากโรงแรมเช่นกัน อย่างที่ผมเคยนำเสนอบทความที่เปลี่ยนวัดให้เป็นที่พักของนักท่องเที่ยวในประเทศญี่ปุ่น เป็นต้น สิ่งที่น่าจับตามองก็คือ ‘ธุรกิจที่พักรูปแบบใหม่’ ที่เดี๋ยวนี้ไม่ได้จำกัดแค่ต้องเป็นโรงแรมแล้วครับ

และคู่แข่งที่ผมคิดว่าโรงแรมต้องเตรียมตัวรับมือให้ดีนั่นก็คือ Airbnb ครับ หาก Airbnb ลงมาเล่นในธุรกิจที่พักมันไม่ยากเลยที่เขาจะเจาะตลาด เพราะ Airbnb มีข้อมูลอยู่ในมือแล้ว ว่าคนพักมีความต้องการที่เมืองไหน Airbnb จึงรู้ว่าควรจะลงทุนที่เมืองไหนบ้าง

ปัจจุบัน Airbnb มีรายได้ 2 หมื่นกว่าล้านเหรียญเทียบเท่ากับแบรนด์โรงแรมอันดับหนึ่ง ทั้งๆ ที่ไม่มีห้องพักเป็นของตัวเองเลย คุณเริ่มเห็นความน่ากลัวเหมือนผมแล้วใช่ไหมครับ ปัจจัยหนึ่งที่ส่งผลต่อเรื่องนี้ก็คือ พฤติกรรมของผู้เข้าพักที่เปลี่ยนไป ตอนนี้นักท่องเที่ยวหลักของโลกเป็นกลุ่ม Gen X,Y,Z และ Millennial ซึ่งพฤติกรรมของนักท่องเที่ยวกลุ่มนี้ไม่ได้ต้องการ สิ่งอำนวยความสะดวกที่ครบครัน ที่พักที่หรูหรา หรือบริการระดับโรงแรมห้าดาว สิ่งที่พวกเขาเอามาตัดสินใจว่าคุ้มค่าหรือไม่ก็คือ ‘ประสบการณ์ที่จะได้รับ’ นักท่องเที่ยวกลุ่มนี้ไม่อยากจ่ายค่าห้องพักที่หรูหรา เพราะพวกเขามีห้องพักสำหรับพักผ่อนในตอนกลางคืนแค่ไม่กี่ชั่วโมงเท่านั้น แต่เวลาตลอดทั้งวันส่วนใหญ่ หมดไปกับการออกไปท่องเที่ยวดูวัฒนธรรม และวิถีชีวิตของชาวบ้านในเมืองที่ไปท่องเที่ยวจริงๆ แม้แต่การบริการที่ ‘ดีเลิศ’ พวกเขาก็จะมองว่ามันเป็นสิ่งที่ ‘ไม่จำเป็น’

นักท่องเที่ยวกลุ่ม Gen X,Y,Z และ Millennial ต้องการแค่ห้องพักที่มีสิ่งอำนวยความสะดวกพื้นฐานที่จำเป็น เพราะงบประมาณส่วนใหญ่มักจะถูกนำไปใช้กับการออกไปท่องเที่ยวหาประสบการณ์ตามสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ เพื่อจะเอาไปบอกเล่าในโซเชียลมีเดียว่าพวกเขาได้ไปที่ไหนมาบ้าง ไปเจอสถานการณ์ที่ไม่คาดฝันแบบไหนมาบ้าง ซึ่งมันท้าทาย และน่าตื่นเต้นกว่าการมัวแต่โพสต์ท่า และถ่ายรูปสวยๆ ในโรงแรมเป็นไหนๆ

มาถึงตอนนี้ผมอยากจะถามคนโรงแรมว่า ทุกวันนี้ ‘จำนวนดาว’ ยังน่าเชื่อถืออยู่ไหม? ผมเป็นคนหนึ่งครับที่จะตอบว่า ‘ไม่เชื่อ’ ในอดีตเมื่อ 10 กว่าปีที่แล้วผมยังคงเชื่ออยู่ ว่าจำนวนดาวสัมพันธ์กับบรรทัดฐานของโรงแรม และมักจะมีการกำหนดแบบชัดเจน ซึ่งเมื่อก่อนแขกก็ติดกับคำว่า ‘โรงแรมนี้กี่ดาว?’ จริงๆ แต่ยุคนี้ เป็นยุคของ Social Media ผู้เข้าพักมีตัวเลือกมากขึ้น เข้าถึงข้อมูลมากขึ้น รู้จักโรงแรมมากขึ้น ถ้าถามผม โรงแรมที่ยึดถือจำนวนดาวก็ยังมีอยู่ และเปิดใหม่เรื่อยๆ โดยที่รักษามาตรฐานของโรงแรมตามจำนวนดาวได้เป็นอย่างดีด้วย แต่โรงแรมรูปแบบใหม่ ที่อยู่นอกกระแส ก็เกิดขึ้นเรื่อยๆ เช่นกัน และผมเชื่อว่า ที่พักที่อยู่นอกกระแสเหล่านี้นี่แหละที่จะกลายมาเป็นจุดเปลี่ยนของธุรกิจที่พัก เหมือนอย่างที่ Hostel หรือ Airbnb เกิดขึ้นมา

สรุปแล้ว ผมมีความเห็นว่าสมัยนี้โรงแรมต้องมองไปที่ ‘ความต้องการ’ ของกลุ่มผู้เข้าพักเป็นหลัก เพื่อตอบสนองความต้องการ และไลฟ์สไตล์ของพวกเขาให้ได้ อย่างที่ Airbnb สามารถทำได้ไปแล้ว และกลายเป็นคู่แข่งที่น่ากลัวของธุรกิจที่พัก ‘รูปแบบใหม่’ ที่ไม่ได้จำกัดแค่ว่าจะต้องเป็น ‘โรงแรม’ เท่านั้น

ไม่พลาดทุกข่าวสาร และบทความดีๆ จาก Smart Finder อัพเดทตรงถึงเมล์คุณ เพียงแค่กรอกอีเมล์ลงไปในช่องด้านล่างเท่านั้น

[mc4wp_form id=”6960″]

 

จัดทำโดย Smart Finder

Smart Finder a hotel software leader, modern innovative and best choice for your hotel.

Smart Finder ผู้นำด้านซอฟต์แวร์โรงแรมที่ทันสมัย และเป็นทางเลือกที่ดีที่สุดสำหรับโรงแรมของคุณ