ไม่มีใครสามารถทำงานคนเดียวได้ คนในองค์กรจึงเป็นปัจจัยหลักที่จะช่วยให้ธุรกิจเติบโตไปถึงเป้าหมายท่ามกลางการแข่งขันที่สูงขึ้นเรื่อยๆ ลูกค้าก็มีทางเลือกมากขึ้น ถ้าคนในองค์กรร่วมมือร่วมใจ ช่วยกันทำให้โรงแรมมีความพร้อม และปรับตัวให้พร้อมรับทุกสถานการณ์ โรงแรมของคุณก็จะไม่หยุดนิ่งและสามารถอยู่ในสนามแข่งได้นานยิ่งขึ้น ซึ่งต้องยอมรับว่ามาตรฐานการบริการถือเป็นสิ่งที่แขกคาดหวังว่าโรงแรมจะสามารถรักษาเอาไว้ให้เป็นระดับเดียวกันได้ทุกครั้งที่เข้าพัก
ทำไมต้องมีมาตรฐานการบริการ?
ถ้าคุณเป็นแขก มาพักที่โรงแรมเป็นครั้งแรก และโรงแรมมีไวน์เอาไว้ในห้องพร้อมข้อความบนการ์ดว่า ยินดีต้อนรับสู่โรงแรม คุณประทับใจมาก เมื่อคุณไปแถวนั้นอีก คุณจึงนึกถึงโรงแรมแห่งนี้ และคาดหวังว่าจะได้ไวน์เหมือนเดิม แต่ครั้งนี้กลับได้เป็นผลไม้แทน และอีกครั้งที่คุณมาเพื่อพิสูจน์ แต่คุณกลับไม่ได้อะไรเลย ความประทับใจในตอนแรกมันหายไปหมด ครั้งต่อไปคุณจึงลองมองหาโรงแรมอื่นแทน
อย่างไรก็ตาม การรักษามาตรฐานการบริการนั้น ไม่ได้มีแค่การให้สิ่งของเท่านั้น แต่วันนี้พี่ Smart จะมาแนะนำ 10 เคล็ด(ไม่)ลับ ที่จะช่วยให้เป็นคนโรงแรมมืออาชีพกัน
1.ทัศนคติต่องานโรงแรม
อันดับแรกเป็นเรื่องของความรักในงานโรงแรม ถ้าคุณไม่รักในงานที่ทำ เมื่อมีปัญหาเกิดขึ้น คุณก็จะไม่อยากทุ่มเทให้กับงานนั้น ในทางกลับกัน เมื่อคุณรักในงานนี้ เมื่อเจอปัญหา คุณจะพยายามหาทางออก และแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นอยู่ตลอดเวลา
เริ่มต้นที่ทัศนคติดี มีชัยไปกว่าครึ่ง
2.เคารพกฏระเบียบและการอยู่ร่วมกัน
ถึงคุณจะเก่งแค่ไหนก็ตาม แต่ถ้าไม่รู้จักทำงานเป็นทีม ก็ไม่สามารถทำงานให้สำเร็จด้วยตัวคนเดียวได้ คนที่รู้จักทำงานเป็นทีม คือคนที่เปิดใจยอมรับความคิดเห็นที่แตกต่าง เคารพซึ่งกันและกัน แล้วก็รู้หน้าที่ของตนเอง เพียงเท่านี้ก็อยู่ร่วมกันได้อย่างมีความสุขแล้ว
3.เป็นคนตรงต่อเวลา
ถ้าภาพลักษณ์การมาทำงานของคุณคือสายเสมอ หัวหน้าจะมองว่าขนาดเวลาคุณยังรักษาไม่ได้ แล้วจะไว้ใจให้ทำงานใหญ่ๆ ได้อย่างไร โอกาสในการก้าวเป็นพนักงานมืออาชีพของคุณก็ลดน้อยลงไปด้วย
4.ยิ้ม ไหว้ Eye contact
ความอัธยาศัยดีนี่ต้องอยู่คู่คนโรงแรมเสมอ แต่บางครั้งก็ต้องดูตามสถานการณ์ด้วย การถือคติ ยิ้ม ไหว้ Eye contact กับแขกทุกคนที่เดินเข้ามาเจอคุณ ย่อมดีกว่าเห็นคุณทำหน้าบึ้งตึงต้อนรับพวกเขาแน่นอน นอกจากนี้ การยิ้มแย้มแจ่มใส ยังช่วยให้บรรยากาศในการทำงานดีขึ้นอีกด้วย โดยเฉพาะการยิ้มให้กับตัวเอง ก็ถือเป็นการเรียกกำลังใจให้ตลอดทั้งวันเจอแต่เรื่องดีๆ
5.มองทุกคนในแง่ดี
การทำงานย่อมมีผิดพลาดได้เสมอ ถ้าหากไม่เคยผิดพลาดก็แปลว่า ไม่เคยทำอะไรเลย แล้วทุกคนก็คงไม่มีใครอยากทำงานผิดพลาดหรอก เพราะฉะนั้น เวลาที่ใครทำดี ก็ควรชื่นชน เวลาที่ใครทำผิด ก็ต้องให้อภัย ให้เขาได้มีโอกาสกลับไปแก้ไข ถ้าทุกคนทำได้แบบนี้ การทำงานก็จะมีแต่พลังบวก เมื่อทุกคนมีความสุขกับสิ่งที่ทำ การร่วมแรงร่วมใจกันทำงาน ก็จะช่วยให้งานสำเร็จไปได้ด้วยดี
6.มีเป้าหมายที่ชัดเจน
คุณจะต้องกำหนดเป้าหมายที่ชัดเจน เช่น ในอีก 5 ปี คุณจะต้องเป็น Manager คุณก็ต้องปรับปรุงการทำงานให้ดีขึ้น อะไรที่เคยผิดพลาดเก็บมาเป็นบทเรียน แต่ไม่ใช่เอามาตอกย้ำตัวเอง เพราะยังไงเราก็กลับไปแก้ไขอดีตไม่ได้ ทำปัจจุบันให้ดีที่สุดก็พอ
7.ใฝ่เรียนรู้
การทำงานทุกอย่างย่อมมีความเสี่ยง หากคุณไม่รู้จักพัฒนาตนเอง ชีวิตคุณก็จะย่ำอยู่กับที่ ไม่มีโอกาสก้าวหน้าไปมากกว่านี้ คุณต้องแบ่งเวลามาเรียนรู้ทั้งจากการอ่าน การฟัง การสังเกต และลงมือทำ แนะนำว่าต้องเป็นเรื่องที่พัฒนาตนเองจริงๆ นะ
8.อ่อนน้อมถ่อมตน
เมื่อเราให้เกียรติคนอื่น คนอื่นก็จะให้เกียรติเรากลับมา การเปิดใจรับฟังซึ่งกันและกัน ร่วมกันแสดงความคิดเห็นได้ เราก็จะนำจุดแข็งของแต่ละคนมาปรับปรุงให้การทำงานดีขึ้นได้
9.รู้จักแก้ปัญหามากกว่าหนีปัญหา
พยายามหาทางแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าให้ได้ แต่ก็ขึ้นอยู่กับสถานการณ์ด้วย ความดันทุรังไม่ได้ช่วยแก้ปัญหาได้ บางทีคุณก็ต้องหาตัวช่วย เพราะบางทีทางออกก็ไม่ได้มีแค่ทางเดียว
10.ใช้เทคโนโลยีให้เป็น
สมัยนี้โรงแรมไม่ว่าจะมีขนาดเท่าไหร่ก็ล้วนมีเทคโนโลยีเข้ามาช่วยทั้งนั้น นับรวมตั้งแต่เครื่องถ่ายเอกสาร ปริ้นเตอร์ ไปจนถึงเครื่องสแกนเนอร์ หรือแม้แต่การกดรับโทรศัพท์ คุณจะต้องมีทักษะในเรื่องพวกนี้ และรู้วิธีแก้ปัญหาที่มักเกิดขึ้นบ่อยๆ ด้วย
ที่ขาดไม่ได้เลยก็คือโปรแกรมโรงแรม ถือเป็นทักษะติดตัวที่เริ่มจำเป็นในงานโรงแรม เพราะเมื่อคุณเข้าไปใหม่ ก็ต้องไปเรียนรู้ใหม่ ถ้าเกิดว่ามีประสบการณ์เคยใช้โปรแกรมโรงแรมอยู่แล้ว ก็สามารถทำงานได้โดยไม่ต้องเสียเวลาเทรนงานอีก
เพียงเท่านี้ คุณก็เป็นคนโรงแรมมืออาชีพได้แล้ว แต่ถ้าใครมีมากกว่า 10 ข้อ คอมเม้นต์มาร่วมพูดคุย และแสดงความคิดเห็นกันได้เลย
ไม่พลาดทุกข่าวสาร และบทความดีๆ จาก Smart Finder อัพเดทตรงถึงเมล์คุณ เพียงแค่กรอกอีเมล์ลงไปในช่องด้
[mc4wp_form id=”1533″]
