มาต่อกับอีก 6 พฤติกรรมไม่ดีที่ส่งผลให้ประสิทธิผลการทำงานของคุณลดลงกันต่อเลย ใครยังไม่ได้อ่าน 6 ข้อแรก คลิก

7.กับดักของการท่องอินเตอร์เน็ต

คุณรู้ความรู้สึก เมื่อคุณหาบางอย่างบนอินเตอร์เน็ต เมื่อคลิก “หัวข้อที่เกี่ยวข้อง” หรือลิงค์อื่น และก่อนที่คุณจะรู้ คุณก็ได้ข้อมูลที่ไม่เกี่ยวข้องมาทั้งหมดแล้ว

มันเป็นเรื่องแรกที่ผู้เขียนยอมรับว่าทำบ่อยๆ มันเป็นผลกระทบที่อันตรายของการทำงานโดยต้องหาจากอินเตอร์เน็ต มันเป็นอีกเหตุผลหนึ่งที่คุณจะเรียกดูเว็บที่นอกเหนือจากงาน หรือเมื่อคุณหยุดพัก แต่มันก็เป็นข้อมูลของเรื่องอื่นทั้งหมด เมื่อคุณจะทำผลงานจริง

นั่นเป็นอะไรที่ Tousley เรียกว่า “กับดักของการท่องอินเตอร์เน็ต” และมันกลายเป็นหนึ่งในสิ่งเสพย์ติดทางจิตใจที่ทำให้ประสิทธิผลแย่ที่สุด

คุณจะต้องรู้สึกเหมือนขาดหายอะไรไปอย่างแน่นอน แต่มีเครื่องมือที่สามารถช่วยคุณป้องกันไม่ให้มันเกิดขึ้น ยกตัวอย่างเช่น StayFocusd ซึ่งเป็นส่วนขยายของ Google Chrome ซึ่งจะช่วยหยุดกับดักนี้ด้วยการบล็อกเว็บไซต์ที่รบกวน หลังจากที่ติดตั้ง คุณจะต้องตั้งเวลาในการเรียกดูเว็บไซต์ต่อวัน และหลังจากหมดเวลา คุณจะได้รับข้อความในเบราว์เซอร์ของคุณ

8.ทำงานในขณะที่พักกลางวัน

การทานข้าวบนโต๊ะทำงานไม่ใช่แค่ทำให้คุณต่อต้านสังคม ตามที่ NPR บอกอีกว่า “นั่นเป็นความคิดที่ไม่ดี ไม่สร้างสรรค์ ไม่ดีต่อประสิทธิผล และไม่ดีต่อร่างกายของคุณ” น่าเศร้าที่หนึ่งในห้าของประชาชนเท่านั้นที่ทิ้งโต๊ะทำงานของพวกเขาหรือออฟฟิศเพื่อไปพักกลางวัน

เพื่อให้ยุติธรรม ถ้าคุณอยู่ท่ามกลางคนที่ทานอาหารกลางวันบนโต๊ะทำงานแทนการไปพัก มันก็ไม่ใช่ความผิดของคุณ บางทีอาจจะไม่มีวัฒนธรรมองค์กรในเรื่องนี้ หรืออาจจะมีกำหนดเส้นตาย มันกดดันคุณทุกขณะ

แต่ผลการวิจัยบอกว่า การหยุดพักเที่ยงสามารถฟื้นฟูสภาพจิตใจได้ และในหลายๆ ทาง ก็มีประสิทธิภาพมากกว่าอยู่บนโต๊ะทำงานตลอด ทางที่ดีที่สุดที่จะพักกลางวันคือ ออกจากโต๊ะทำงาน หรือสถานที่ทำงาน และไปทานที่อื่น เช่น โรงอาหาร ร้านอาหาร หรือสวนสาธารณะ ให้ดีกว่านั้น ก็คือ สร้างกลุ่มทานข้าวร่วมกันของเพื่อนร่วมงาน

9.ไม่รับฟัง(ฟังอย่างตั้งใจ)

หนึ่งในผลลัพธ์ที่น่าเศร้าของการรบกวน คือ มักจะให้ความสนใจแค่ครึ่งหนึ่ง และคิดว่ามันไม่เป็นไร คุณจะคิดว่าบางครั้ง คนอื่นกำลังพูดอยุ่ แปลว่าคุณจะต้องเป็นผู้ฟัง แต่เหมือนกับที่เพื่อนร่วมงานของผู้เขียน Andrew Quinn เขียนในโพสต์ของเขา ในนิสัยการสนทนาที่ไม่ดี “คำถามก็คือ ใครที่คุณฟังเมื่อคนอื่นพูด” เขาเขียน “ฉันกล้าที่จะพนันได้เลยว่า ที่จริงแล้ว คุณฟังเสียที่อยู่ในหัวของคุณอยู่”

หรือคุณอ่านเมล์ที่เพิ่งมาถึง หรือตรวจสอบว่าทำไมโทรศัพท์ของคุณถึงส่งเสียง เมื่อคุณอยู่ในห้องประชุม คุณให้ความสนใจกับการประชุมมากเท่าไหร่ เมื่อโน๊ตบุ๊คของคุณเปิดอยู่

ไม่ใช่แค่การฟังอย่างตั้งใจมันเป็นต้นทุนของความสัมพันธ์ เพราะสามารถจ่ายต้นทุนการเสียเวลาเป็นการรับฟังข่าวสารอะไรก็ตามที่คุณพลาดไป การจะกลายเป็นผู้ฟังที่มีคุณภาพเป็นส่วนสำคัญที่จะกลายเป็นคนที่ฉลาดทางอารมณ์ด้วย นี่หมายความว่า การให้ความสนใจอย่างแท้จริงกับผู้พูด และมันจะเป็นทักษะที่จะทำให้คุณแยกเรื่องงานกับเรื่องส่วนตัวได้

10. พูดแค่ ใช่ค่ะ/ใช่ครับ ในทุกการประชุม

เป็นการอยู่ในพื้นที่ของตัวเองเมื่อคุณสูญเสียความเป็นตัวเองในอะไรก็ตามที่คุณทำอยู่ มากพอที่คุณจะรู้สึกว่าเสียเวลา มันเป็นอีกหนึ่งกุญแจสำคัญของทั้งการทำงานอย่างมีความสุข และมีประสิทธิภาพ

และไม่มีอะไรที่ขัดขวางการประชุมไม่ให้ไหลลื่น โดยเฉพาะเรื่องที่ไม่จำเป็น ผู้คนเสียเวลาไปกับการประชุม 31 ชั่วโมงต่อเดือน แต่องค์กรไม่ได้ต้องการการประชุมที่ไม่จำเป็นเช่นนี้ ตัวคุณเอง หรือคนอื่นๆ ก็เช่นกัน
ต้องการเอา 31 ชั่วโมงนั้นคืนมา? นี่คือข้อแนะนำเล็กๆ น้อยๆ

  • คุณแน่ใจว่าสนใจกับการประชุมนั้น หรือมันจำเป็นต่อคุณจริงๆ ถ้าคุณไม่เห็นว่าตัวเองจะเอื้อประโยชน์ต่อกลุ่ม บอกที่ประชุมอย่างสุภาพว่าคุณไม่สามารถเข้าร่วมได้
  • หากคุณเป็นคนที่เรียกประชุม ส่งจดหมายเชิญ อธิบาย หรือบอกหัวข้อที่จะประชุมเวลาที่เชิญ นี่จะช่วยให้พวกเขาเข้าใจว่าทำไมถึงเชิญเขา หรือความจำเป็นที่พวกเขาต้องเข้าร่วมประชุม
  • กำหนดการประชุมขนาดใหญ่ ถ้าคุณสามารถทำได้ นี่เป็นกลยุทธ์ที่จะทำให้พวกเขามั่นใจว่าเวลาที่คุณทำการประชุมข้างนอก มันจะเป็นการเสียค่าใช้จ่ายอย่างมีประสิทธิภาพมากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ เพราะว่าต้องทำให้คนใช้เวลาโดยเฉลี่ย 25 นาทีเพื่อที่จะกลับไปให้ความสนใจหลังจากสลับไปทำงานอื่น

    11.การทำงานหลายอย่างในเวลาเดียวกัน

    การทำงานหลายอย่างในเวลาเดียวกันดูเหมือนว่าจะเป็นอะไรที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ในปัจจุบัน มันได้เชื่อมต่อเป็นวิถีชีวิต แต่ผลการวิจัยแสดงให้เห็นว่า มันจะทำให้ประสิทธิภาพลดลง ความผิดพลาด และความเครียดเพิ่มขึ้น และต้นทุนค่าใช้จ่ายในเศรษฐกิจโลกอยู่ที่ประมาณ 450ล้านดอลลาร์ทุกปี

    คุณเป็นข้อยกเว้นหรือไม่? : ประชากร 2% เท่านั้นที่จะทำงานหลายอย่างในเวลาเดียวกันได้อย่างมีประสิทธิภาพ สำหรับอีก 98% ที่เหลือ พบว่า 40% จะทำงานที่มีประสิทธิผลน้อย และทำให้ 50% ทำงานผิดพลาด

    จำพฤติกรรมการไม่ตั้งใจฟังได้ไหม? ผู้คนนจะทำอย่างอื่นมากมายระหว่างที่ประชุม เมื่อพวกเขาพยายามทำหลายอย่างพร้อมกัน ไม่ว่าจะเป็นการอ่าน และตอบกลับอีเมล์หรือข้อความ ดูหน้าฟีดทวิตเตอร์ หรืออื่นๆ ในความจริง 92% ของมืออาชีพยอมรับการทำงานหลายอย่างขณะที่ประชุม และ 41% ยอมรับการทำแบบนั้นตลอดเวลา

    การกำจัดพฤติกรรมการทำงานหลายอย่างในเวลาเดียวกันเป็นเรื่องที่ทำได้อย่าง แต่แน่นอนว่าสามารถทำได้ ก่อนอื่นเอาการแจ้งเตือนออกจากคอมพิวเตอร์ที่คุณทำงาน(ตามข้อ5) และวางมือถือของคุณเอาไว้(ตามข้อ6) 2 วิธีนี้เป็นการเริ่มต้น ไอเดียอื่นๆ รวมไปถึงการสร้างกฎที่ห้ามเอา laptop เข้าห้องประชุม

    12.เล่นโทรศัพท์ก่อนนอน

    เมื่อคุณนอนบนเตียง บนไฟ และเลื่อนดูโทรศัพท์เพื่อตอบกลับข้อความ และอีเมล์ในนาทีสุดท้าย เช็คฟีดของทวิตเตอร์ หรือในอินสตาแกรมหรือเปล่า? ยกมือขึ้นถ้าคุณใช้เวลากับเรื่องเหล่านี้ครึ่งชั่วโมง 45 นาที หรือเป็นชั่วโมง

    จินตนาการเอาว่าคุณจะนอนได้มากขึ้นเท่าไหร่ถ้าคุณหลับตั้งแต่ปิดไฟในตอนแรก

    แต่มันไม่ใช่แค่ระยะเวลาการนอน แต่ยังรวมไปถึงคุณภาพของการนอนหลับอีกด้วย ในกรณีศึกษาบอกว่า คนที่จ้องมองที่หน้าจอที่สว่างก่อนนอน มีรายงานว่าคุณภาพการนอนหลับจะต่ำกว่า แม้พวกเขาจะนอนหลับมากเท่าคนที่ไม่ได้เล่นโทรศัพท์ก่อนนอนก็ตาม นั่นก็เพราะว่าการที่มีแสงอยู่ แล้วก็หายไปบอกสมองว่าเขาควรจะปล่อยฮอร์โมนเมลาโทนิ ที่ทำให้คุณรู้สึกเหนื่อย เพราะว่า แสง LED ปล่อยออกมาจากหน้าจอปฏิบัติการของโทรศัพท์ มันเหมือนกับแสงในตอนกลางวัน มันสามารถหลอกให้สมองของคุณคิดว่าเป็นตอนกลางวัน ซึ่งเป็นสาเหตุให้ตื่นเป็นเวลานาน

    วิธีที่ดีที่สุดที่จะหยุดพฤติกรรมแบบนี้ คือ ใช้นาฬิกาปลุกแทนมือถือของคุณ และชาร์จโทรศัพท์ในห้องอื่นเพื่อหลีกเลี่ยงแรงดึงดูดให้ไปเช็คมัน ถ้าคุณกังวลว่าจะพลาดสายสำคัญ คุณพยายามส่งข้อความสุดท้าย 30-60 นาทีก่อนที่คุณจะไปนอน นั่นหมายความว่าคุณจะได้นอนหลับอย่างมีคุณภาพ นี่ทำให้การทำงานของคุณมีประสิทธิผลสูงสุดในวันต่อมา

    Source : http://blog.hubspot.com/

    ไม่พลาดทุกข่าวสาร บทความดีๆ อัพเดทโดนๆ กรอกอีเมล์ลงในช่องด้านล่างนี้ได้เลย แล้วทุกสิ่งทุกอย่างจะถูกส่งไปในเมล์ของคุณ
    [mc4wp_form id=”1533″]