สิ่งที่นักธุรกิจทุกคนต้องการก็คือ “กำไร”(กำไร = ยอดขาย > ค่าใช้จ่าย) คงไม่มีใครอยากได้ยินคำว่า “ขาดทุน”(ขาดทุน = ยอดขาย < ค่าใช้จ่าย) แต่มันก็เป็นเรื่องที่อยู่คู่กัน ไม่กำไร ก็ขาดทุน แล้วทำไมธุรกิจถึงขาดทุนแทนที่จะมีกำไร มาดู 3 สาเหตุที่ทำให้ธุรกิจของคุณ “ขาดทุน” กัน

1.แยกเงินของธุรกิจออกจากเงินส่วนตัว

แนวคิดที่เจ้าของธุรกิจมักจะเข้าใจผิด คือ การที่ไม่ตั้งเงินเดือนให้ตัวเอง เพราะคิดว่าตัวเองเป็นเจ้าของเงินทั้งหมด เวลาจะใช้จ่ายอะไรก็ใช้จากเงินกองเดียวกันหมด และจะใช้อะไรก็ได้ ตราบใดที่ยังมีเงินกองนี้อยู่ ลบความคิดนี้ออกไปซะ! ที่ถูกต้องก็คือ คุณจะต้องแยกแยะเงินของธุรกิจออกจากเงินส่วนตัว มองธุรกิจให้เป็นอีกบุคคลหนึ่ง ที่คุณรับจ้างทำงานให้อยู่

จ่ายเงินเดือนตัวเองให้ชัดเจน และห้ามใช้เงินเกินเงินเดือนที่ได้ คุณจะตั้งเงินเดือนให้ตัวเองเท่าไหร่ก็ได้ แต่ต้องเป็นตัวเลขที่มีเหตุผล และไม่กระทบกับรายรับ

ให้นึกถึงตอนที่คุณเป็นพนักงานเงินเดือน คุณได้รับเงินเดือนที่ชัดเจน และต้องใช้เงินห้ามเกินนั้น แต่พอมาเป็นเจ้าของธุรกิจ กลับใช้เงินโดยไม่จำกัด ทำให้มีค่าใช้จ่ายที่ไม่แน่นอนในแต่ละเดือน ขึ้นอยู่กับว่าคุณอยากจะใช้เงินมากน้อยแค่ไหน

2.ไม่ทำบัญชีรายรับ-รายจ่าย

เมื่อตั้งเงินเดือนให้ตัวเองเรียบร้อยแล้ว คุณก็ต้องมาทำบัญชีรายรับ-รายจ่าย ในแต่ละวัน เหลือเงินที่ใช้ได้อีกเท่าไหร่

ถ้าคุณคิดว่ามีรายรับเพิ่มขึ้นทุกเดือน และเงินเดือนที่ตั้งให้ตัวเองไม่พอใช้ คุณจะขึ้นเงินเดือนให้ตัวเองก็ได้ แต่ต้องมั่นใจว่าจะไม่กระทบกับรายรับ คุณจะรู้ได้ว่ากระทบหรือไม่ก็ต้องทำบัญชีรายรับ-รายจ่ายของธุรกิจด้วย ถ้าขี้เกียจทำ ระวังจะเจ๊งแบบไม่ทันตั้งตัว

3.ใช้เงินผิดประเภท

ถึงจะแยกเงินของธุรกิจออกจากเงินส่วนตัวแล้ว ก็ยังจะเอาเงินของธุรกิจนั้นไปจับจ่ายใช้สอยในชีวิตประจำวัน เช่น ซื้อของกินของใช้ ไปเที่ยว ไปผ่อนบ้าน ผ่อนรถ ซึ่งล้วนแล้วแต่เป็นเรื่องส่วนตัวทั้งนั้น และคุณต้องใช้เงินส่วนตัว! ซึ่งก็คือเงินเดือนเท่านั้น! ส่วนเงินของธุรกิจก็ควรจะเก็บเอาไว้ใช้จ่ายในเรื่องของธุรกิจ เช่น ไว้เป็นต้นทุนสินค้า ไว้เป็นสภาพคล่อง ค่าดำเนินกิจการ ซื้อวัตถุดิบ ใช้หนี้การค้า จ่ายเงินเดือน ฯลฯ

สิ่งสำคัญก็คือ ต้องแยกทุนแยกกำไรเสมอ เพราะถ้าไม่แยกกัน เวลาที่คุณหยิบเงินออกมาใช้จ่าย คุณก็จะมองว่าเงินทั้งหมดเป็นรายรับ พอเอาไปใช้ปนกันหมด ก็เท่ากับได้ใช้ทั้งทุนและกำไรไปหมด แบบนี้ไม่ว่าคุณจะขายดีแค่ไหนก็ไม่มีเงินเหลือ

ทั้ง 3 สาเหตุที่กล่าวมานั้นล้วนแล้วแต่เป็นเรื่องของการบริหารเงินทั้งสิ้น เพราะถ้าคุณบริหารเงินไม่เป็น ไม่ทำบัญชีรายรับ-รายจ่าย และใช้เงินผิดประเภท สุดท้ายธุรกิจก็ไปไม่รอดอยู่ดี เพราะไม่รู้ว่าหามาได้เท่าไหร่ จ่ายออกไปมากกว่าที่หามาได้หรือไม่นั่นเอง

ไม่พลาดทุกข่าวสาร และบทความดีๆ จาก Smart Finder อัพเดทตรงถึงเมลคุณ เพียงแค่กรอกอีเมลลงไปในช่องด้านล่างเท่านั้น
[mc4wp_form id=”1533″]

จัดทำโดย Smart Finder

Smart Finder a hotel software leader, modern innovative and best choice for your hotel.
Smart Finder ผู้นำด้านซอฟต์แวร์โรงแรมที่ทันสมัย และเป็นทางเลือกที่ดีที่สุดสำหรับโรงแรม