ไม่ว่าโรงแรมของคุณจะเปิดมานานแค่ไหน ก็ต้องปรับตัวไปตามยุคสมัยที่เปลี่ยนไป การบริหารโรงแรมก็เปลี่ยนไปตามผู้บริหารรุ่นใหม่ๆ ที่ก้าวขึ้นมาเช่นกัน ในยุคนี้ก็คงจะเป็นชาว Millennials(เป็นชื่อเรียกรวมๆ ของ Gen Y และ Gen Z) ที่เริ่มมีบทบาท และขึ้นมาเป็นผู้บริหารแทนรุ่นพ่อแม่ของตนเอง(อ่าน ความท้าทายครั้งใหม่ของโรงแรม: เมื่อชาว Millennials โตขึ้น!)
เป็นที่รู้กันดีอยู่แล้วว่าเด็กรุ่นนี้เกิดมาในโลกของอินเทอร์เน็ตและเทคโนโลยี การจะทำการตลาดกับคนรุ่นนี้ จึงเป็นความท้าทายใหม่ของธุรกิจในปัจจุบัน
สิ่งแรกที่คุณควรจะรู้ก็คือ ชาว Millennials ‘ไม่เชื่อ’ ข้อมูลที่มาจากรัฐบาลหรือบริษัทเอง แต่จะเชื่อเพื่อน ครอบครัวหรือแม้แต่คนแปลกหน้าที่มาแชร์ประสบการณ์มากกว่า แล้วเมื่อพวกเขาเลือกแล้ว ก็อยากจะรู้สึกว่าเลือกไม่ผิด และอยากให้การเลือกของพวกเขามีความหมาย พวกเขาปฏิเสธเรื่องน่าเบื่อที่องค์กรหัวโบราณชอบทำ และเรื่องที่ควรจำเอาไว้ให้ขึ้นใจก็คือ คุณจะต้องปล่อยให้พวกเขารับรู้ข้อมูล และสามารถวิจารณ์ได้อย่างเต็มที่
การสื่อสารกับพวกเขาถือเป็นเรื่องที่สำคัญมาก ซึ่งคุณสามารถทำได้ผ่าน Social Media แต่ก็ต้องคำนึงถึงเรื่องเหล่านี้ด้วย
1.ต้องเป็นเรื่องจริง
อันนี้สำคัญมาก เพราะถ้าพวกเขารู้ทีหลังว่าคุณไม่จริงใจแล้วล่ะก็ พวกเขาจะหนีคุณไปทันที โดยไม่หันกลับมาอีกเลย
2.โต้ตอบแบบตรงไปตรงมา
บางทีลูกค้าก็ต้องการแค่คนที่เข้าใจ คุณต้องหาวิธีคุยให้พวกเขารู้สึกว่า คุณหวังดี และต้องการให้พวกเขาได้รับสิ่งดีๆ จริงๆ โดยคำพูดอาจจะไม่เป็นทางการนัก แต่ต้องเป็นไปอย่างตรงไปตรงมา
3.ต้องตอบสนองอย่างรวดเร็ว
ธุรกิจที่ไม่สามารถติดต่อกับลูกค้าได้อย่างรวดเร็ว ทุกชั่วโมง ทุกนาทีนั้น ล้าสมัยและเป็นองค์กรที่ไม่ปรับตัวไปแล้ว
Social Media จึงกลายเป็นดาบสองคม ในขณะที่สร้างกลุ่มลูกค้าได้มากมาย แต่มันก็ทำลายกลุ่มลูกค้าของคุณได้เช่นกัน
ซึ่งนอกจากโรงแรมจะต้องปรับเปลี่ยนวิธีการสื่อสารแล้ว ยังต้องปรับวิธีการดำเนินงานให้เหมาะกับกลุ่ม Millennials ดังนี้
1.เสมอต้นเสมอปลาย
โรงแรมของคุณต้องคงคุณภาพการบริการเอาไว้ให้ได้ ต้องมีจุดยืน เวลาจะทำการตลาดก็ต้องเป็นไปในทิศทางเดียวกันเสมอ
2.ใส่ใจท้องถิ่น
เช่น คงวัฒนธรรมของท้องถิ่นนั้นๆ หรือช่วยฟื้นฟูประเพณีอันดีงาม เผยแพร่เรื่องเหล่านี้ไปสู่นักท่องเที่ยว ใช้วัตถุดิบที่หาได้จากท้องถิ่น หรือแม้แต่ช่วยให้คนในพื้นที่มีงานทำ
3.ไม่ Hard Sale
ที่เคยบอกไปตั้งแต่ต้นแล้วว่าพวกเขาจะ ‘ไม่เชื่อ’ ข้อมูลที่ได้รับจากบริษัทเอง การขายแบบ Hard Sale จะไม่ได้ผล แบรนด์ที่ทำให้พวกเขาเชื่อถือได้ จะมาในรูปแบบ “เพื่อน” ที่มักจะมอบสิ่งดีๆ ให้แก่กัน และไว้ใจได้เหมือนเป็นคนในครอบครัว
4.ผู้เข้าพักมีส่วนร่วม
การพยายามให้ผู้บริโภคเข้ามามีส่วนร่วมกับแบรนด์ให้มากขึ้น เช่น ข้อแนะนำเรื่องบริการ หรืออยากให้เพิ่มเติม ปรับปรุงอะไร คุณก็ต้องไม่เพิกเฉยต่อข้อคิดเห็นของพวกเขา แต่เอามาประกอบการพิจารณา และถ้าช่วยให้โรงแรมดีขึ้น ก็ควรทำตาม
5.ยอมรับความจริง
เมื่อคุณให้ข้อมูลทุกอย่างไปทั้งหมดแล้ว ที่เหลือก็ขึ้นอยู่กับการพิจารณาของพวกเขาแล้ว ว่าจะตัดสินใจอย่างไร การยอมรับความจริงก็เป็นอีกกลยุทธ์หนึ่งที่คุณควรเอามาทบทวน เพื่อให้สามารถเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้นต่อไป
ทุกการเปลี่ยนแปลงเป็นเรื่องที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ แต่นั่นก็ไม่ใช่เรื่องน่ากังวล ถ้าคุณรู้จักโรงแรม และกลุ่มลูกค้าเป้าหมายดีพอ แล้วปรับตัวตามสถานการณ์ต่างๆ ที่เปลี่ยนแปลงไปได้อย่างทันท่วงที ไม่ว่าจะทำการตลาดกับคนรุ่นไหนก็ไม่น่ากลัวอีกต่อไป
ไม่พลาดทุกข่าวสาร และบทความดีๆ จาก Smart Finder อัพเดทตรงถึงเมล์คุณ เพียงแค่กรอกอีเมล์ลงไปในช่องด้
[mc4wp_form id=”1533″]