Mobile-marketing คุณรู้จักWalmartไหม?? หลายคนคงจะเคยได้ยินข่าวที่ว่าWalmartประกาศปิดห้าง 269 แห่งทั่วโลก… ถ้าถามว่าบริษัทค้าปลีกที่ใหญ่ที่สุดในโลกคือบริษัทอะไร คนไทยหลายคนอาจไม่คุ้นเคยกับชื่อWalmartแต่ถ้าพูดถึงเรื่องค้าปลีกแล้วไม่มีใครสู้บริษัทนี้ ที่ได้ชื่อว่าเป็นอันดับหนึ่งของโลกได้ แล้วทำไมถึงได้เกิดเหตุการณ์นี้ขึ้นเหตุผลเดียวสั้นๆ คือ“สู้ตลาดออนไลน์ไม่ได้”

เหตุการณ์นี้แสดงให้เห็นว่ายุคอีคอมเมิร์ซเติบโตขึ้นแล้ว ผู้บริโภคทั่วโลกหันมาใช้อินเตอร์เน็ตในการค้นหาสินค้า เปรียบเทียบราคา หาข้อมูลจากผู้ซื้อคนอื่นๆ นอกจากนี้เทคโนโลยีได้เอื้อให้การเข้าถึงเว็บไซต์อีคอมเมิร์ซ และระบบชำระเงินสะดวกรวดเร็ว ถูกใจผู้บริโภคที่มีเวลาน้อยลง เพราะมีพฤติกรรมแบบ Multi-tasking Generation ที่ต้องทำกิจกรรมหลากหลายในเวลาเดียวกัน เห็นได้ว่าอิทธิพลจากซุปเปอร์มาร์เก็ตออนไลน์ และร้านค้าออนไลน์ กำลังเปลี่ยนพฤติกรรม และความต้องการของผู้บริโภคไปเรื่อยๆ

ซึ่งวันนี้ยักษ์ใหญ่อย่าง Walmart กำลังถูกท้าทายด้วยร้านค้าออนไลน์ที่ไม่มีแม้แต่หน้าร้านอย่าง Amazon ซึ่งสร้างยอดขายในปี 2553 มากกว่า 3 หมื่นล้านดอลล่าสหรัฐ และมีส่วนแบ่งอีคอมเมิร์ซถึง 1 ใน 3 ทั้งๆ ที่ Walmart เองก็มี Walmart.com มานานกว่า 15 ปีแล้วเช่นกัน

ถึงตอนนี้ก็คงจะปฏิเสธไม่ได้แล้วว่า นี่คือยุคของสื่อสังคมออนไลน์ ที่มีผู้เข้าชมเว็บไซต์ เพิ่มมากขึ้นจาก Social Media มีการ share Links ของเว็บไซต์ผ่าน Facebook, Twitter ฯลฯ คุณคงจะตั้งคำถามแล้วว่า แล้วเรื่องนี้เกี่ยวอะไรกับธุรกิจโรงแรม??

ปัญหาที่ใหญ่ที่สุดระหว่างโรงแรมกับผู้ที่มาพัก ก็คือ ความห่างชั้นในด้านเทคโนโลยี ซึ่งอาจจะถึงขั้นที่ว่าติดตามกันตลอดเวลาเลยก็ว่าได้ ไม่ใช่แค่กับธุรกิจโรงแรมเพียงอย่างเดียว แต่ยังรวมไปถึงการหาข้อมูลเลือกซื้อสินเค้าออนไลน์ทุกประเภท เพราะฉะนั้นจะดีกว่าไหมหากทางโรงแรมจะมีช่องทางอย่างเป็นทางการในสื่อสังคมออนไลน์ ซึ่งอาจเป็นช่องทางหลักในการสร้างรายได้ในอนาคต

คุณต้องคิดอยู่เสมอว่าเว็บไซต์ของโรงแรมนั้น เป็นเหมือนบ้านที่ทุกๆ คนจะเข้าไปทำความรู้จัก อย่าใช้สถานที่อื่นๆ เป็นบ้านของตัวเอง ไม่ว่าจะเป็นเอเจนจองโรงแรมหรือนำเที่ยว หรือแม้กระทั่งเฟสบุ๊คของตนเอง โดยละเลยความสำคัญของบ้านตัวเองไป เพราะนี่เป็นที่ที่เราสามารถควบคุมทุกๆ อย่างได้ และนี่คือ 8 อย่างที่คุณควรจะทำ

1.ควรเป็นสถานที่แสดงความเป็นตัวตน คอนเซ็ปต์ และแบรนด์ของโรงแรม โดยเฉพาะจุดเด่นที่คุณต้องการพรีเซนต์

2.เป็นอีกช่องทางในการแสดงให้เห็นถึงภาพบรรยากาศ และบริการที่ยอดเยี่ยมของโรงแรม

3.การสร้างสรรค์เนื้อหาบนเว็บไซต์ให้น่าสนใจ และอัพเดตอยู่ตลอดเวลา ทางที่ดีควรจะสร้างความแตกต่างกับคู่แข่งด้วย

4.มีระบบจองโรงแรมที่ดี แสดงให้เห็นถึงประสิทธิภาพการทำงาน และบริการของโรงแรม อาจจะเพิ่มช่องทางการจองผ่านเว็บไซต์ และมีการสอนวิธีการจองด้วยตัวเองที่สะดวก และเข้าใจง่าย

5.นำเสนอโปรโมชั่นต่างๆ ที่ดึงดูดผู้ที่มาเข้าพักให้มากขึ้น ซึ่งคุณต้องคำนึงถึงการเช้าชมเว็บไซต์ของบุคคล 2 กลุ่มหลัก คือ กลุ่มลูกค้าเดิมของโรงแรมที่เคยใช้บริการแล้ว และกลุ่มผู้ที่คาดหวัง(Prospect)จะได้มาเป็นลูกค้า

6.ผลตอบรับหรือFeedback ของลูกค้าคือสิ่งที่สำคัญที่สุด ไม่ว่ายอดผู้ที่เข้าพักจะดีเพียงใด คำติชมของลูกค้าเป็นสิ่งสำคัญมากที่จะแสดงให้เห็นความใส่ใจที่มีต่อพวกเขา เพื่อใช้เป็นช่องทางการสื่อสารที่จะปรับปรุง และพัฒนาระบบบริหารจัดการโรงแรมให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

7.สถิติ และข้อมูลเป็นเครื่องมือสำคัญที่คอนสะท้อนการดำเนินกิจการที่ผ่านมา คุณควรเรียนรู้การใช้เครื่องมือต่างๆ เช่น รายงานจาก Google Analytics ก็จะสามารถช่วยในการวางแผนต่างๆ ได้อย่างเหมาะสมมากขึ้น

8.สุดท้ายเป็นเรื่องของการมองดูธุรกิจโรงแรมในภาพรวม นอกจากเทรนการท่องเที่ยวแล้ว คุณยังต้องติดตามคู่แข่งอีกด้วย รับข่าวสารจากพวกเขาบนสังคมออนไลน์ แล้วนำมาวิเคราะห์ จุดแข็ง จุดอ่อน ต่างๆ เพื่อปรับกลยุทธ์ทางการตลาดต่อไป

นอกจากการปรับเปลี่ยนโฉมหน้าของเว็บแล้ว การจัดการภาพลักษณ์ของโรงแรมทั้งในทาง Negative & Positive Comments อย่างทันท่วงทีก็เป็นเรื่องที่ต้องดูแล และก็ไม่ใช่ว่าจะเมินเว็บเอเจนต่างๆ เช่นกัน

จะดีกว่าไหม ถ้าโรงแรมของคุณจะมีกลยุทธ์ที่แตกต่าง เพื่อหลีกเลี่ยงการแข่งขันที่มีผู้เล่นมากเกินไป คลิก

อ่านแล้วรู้สึกยังไง มีใครนำไปใช้แล้วบ้าง มาคอมเมนต์เล่าสู่กันฟังได้นะคะ

อ๊ะๆ อย่าเก็บบทความดีๆ ไว้คนเดียวเลยนะ
[x_share title=”แชร์ต่อให้เพื่อน” facebook=”true” twitter=”true”]

ติดตามพวกเรา ง่ายแค่คลิกเดียว