cloud-vs-ground

บทความนี้ผมจะมาเปิดโปงข้อดีข้อเสียระหว่างโปรแกรมโรงแรมสองชนิดที่ผู้ให้บริการทั้งสองฝั่งไม่เคยเปิดเผย พร้อมกับคำแนะนำในการเลือกโปรแกรมให้เหมาะกับโรงแรมของคุณ ฝั่งแรกคือระบบบริหารโรงแรมแบบCloud(SaaS) และอีกฝั่งคือซอฟต์แวร์โรงแรมที่ใช้งานผ่านServerบนดิน
*เพื่อจำกัดรุ่นการแข่งขันให้สูสีกัน เราก็ต้องมากำหนดพิกัดของแต่ละฝ่ายกันก่อนว่าแต่ละฝ่ายมีคุณสมบัติอย่างไรที่จะใช้ในการเปรียบเทียบ
โปรแกรมโรงแรมแบบCloud(SaaS)
คุณสมบัติ
1. เป็นระบบแบบSaaSที่เก็บค่าบริการแบบรายเดือน
2. มีจำนวนผู้ใช้ตั้งแต่500โรงแรมขึ้นไป
3. ใช้ได้ทันทีเมื่อจ่ายเงินโดยไม่มีการติดตั้งหน้าไซท์งาน
โปรแกรมโรงแรมแบบServerบนดิน
คุณสมบัติ
1. เป็นระบบที่คิดค่าบริการแบบLicensing
2. มีจำนวนผู้ใช้ตั้งแต่500โรงแรมขึ้นไป
3. ต้องการการติดตั้งหน้าไซท์งาน

1. ค่าใช้จ่าย

โปรแกรมโรงแรมแบบCloud(SaaS)
ข้อดี
• คิดค่าใช้บริการแบบรายเดือน ทำให้คุณไม่ต้องเสียเงินเป็นก้อนในการลงทุนซื้อระบบ
• ค่าดูแลรักษาต่ำหรือไม่มีเลย เพราะได้รวมไว้ในค่าบริการรายเดือนแล้ว
ข้อเสีย
• ค่าใช้จ่ายสะสมในระยะยาวมากกว่าการลงทุนซื้อระบบครั้งแรกครั้งเดียวเมื่อใช้ไปเกินหนึ่งหรือสองปี

โปรแกรมโรงแรมแบบServerบนดิน
ข้อดี
• ลงทุนก้อนใหญ่ครั้งแรกครั้งเดียว ยิ่งใช้นานยิ่งคุ้ม
• สามารถต่อรองราคาได้
ข้อเสีย
• จ่ายเงินก้อนใหญ่คือความเสี่ยง ทั้งเรื่องการเงินและความสมบูรณ์ในการติดตั้ง
• ต้องจ่ายค่าบริการดูแลรักษารายปี
สรุปความคิดเห็น
ถ้าคุณมีเงินลงทุนจำกัด การลงทุนกับระบบบริหารโรงแรมแบบCloudจะช่วยให้คุณมีสภาพคล่องทางการเงินเพื่อนำไปใช้ในการหมุนเงินในธุรกิจได้
แต่ถ้าคุณพอจะมีงบประมาณ การลงทุนในโปรแกรมบริหารโรงแรมแบบServerดูจะคุ้มค่ามากกว่าในระยะยาว

2. การใช้งาน

เช่น
• ความเร็ว
• ฟีเจอร์
• Customization
• ความง่ายในการใช้งาน
• ดีไซน์หน้าตาโปรแกรม
โปรแกรมโรงแรมแบบCloud(SaaS)
ข้อดี
• สามารถเข้าใช้งานระบบจากที่ไหนก็ได้ผ่านอินเตอร์เน็ต
• การอัพเดทโปรแกรมสามารถทำได้ง่าย
ข้อเสีย
• ข้อเสียของโปรแกรมโรงแรมแบบCloud(SaaS)คงจะหนีไม่พ้นเรื่องการปรับแต่งโปรแกรมให้เข้ากับลูกค้าเฉพาะราย(Customization) เพราะตัวแพลตฟอร์มถูกออกแบบมาให้เป็นมาตรฐานเดียวกันหมด(Standardization)ในทุกโรงแรม
• ไม่สามารถใช้งานได้เมื่อไม่มีการเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ต
โปรแกรมโรงแรมแบบServerบนดิน
ข้อดี
• เหมาะกับการปรับแต่งให้เข้ากับโรงแรมที่มีความต้องการพิเศษนอกเหนือจากคุณสมบัติปกติ
• มีความเร็วในกระประมวลผลข้อมูลสูง ทำให้การทำงานคล่องตัว
• มีเปอร์เซ็นต์Up Timeสูงเพราะสามารถใช้งานได้ตลอดเวลาโดยไม่มีข้อจำกัดจากทั้งปัจจัยภายนอกและทางเทคนิค เช่น ไฟฟ้าดับ หรือการไม่มีอินเตอร์เน็ต
ข้อเสีย
• ต้องใช้งานจากเครื่องที่ติดตั้งโปรแกรมไว้เท่านั้น
• การอัพเดทโปรแกรมให้เป็นปัจจุบันทำได้ยากและใช้เวลาในการอัพเดทสูง

สรุปความคิดเห็น
ในด้านฟีเจอร์ ความง่าย และการออกแบบโปรแกรม ทั้งสองฝ่ายสามารถทำให้ดีได้เท่าๆกัน
ถ้าคุณชอบความคล่องตัวในการใช้งาน โปรแกรมโรงแรมแบบCloud(SaaS)สามารถตอบโจทย์คุณได้
แต่ถ้าคุณต้องการระบบที่สามารถปรับให้เข้ากับการทำงานของคุณได้ คุณควรเลือกโปรแกรมโรงแรมแบบServerบนดิน

3.การดูแลรักษา

โปรแกรมโรงแรมแบบCloud(SaaS)
การดูแลรักษาเป็นเรื่องที่ง่ายมาก อีกทั้งคุณสามารถเลือกได้ว่าจะมีฝ่ายITหรือไม่ก็ได้ เพราะคุณแทบจะไม่ต้องการความช่วยเหลือทางด้านเทคนิคซักเท่าไหร่ หน้าที่นี้ตกเป็นของผู้ให้บริการในการแก้ไขปัญหาให้แก่คุณ

โปรแกรมโรงแรมแบบServerบนดิน

จำเป็นต้องมีผู้เชี่ยวชาญด้านITในการดูแลระบบในกรณีที่เกิดปัญหาขัดข้องทางเทคนิค

สรุปความคิดเห็น
ไม่ต้องสงสัยเลยว่าโปรแกรมโรงแรมแบบCloud(SaaS)เป็นผู้ชนะอย่างขาดลอยในเรื่องของความง่ายในการดูแลรักษาระบบ

4.การบริการของผู้ให้บริการ

โปรแกรมโรงแรมแบบCloud(SaaS)
• ส่วนใหญ่การแก้ไขปัญหาหรือการให้บริการต่างๆจะติดต่อผ่านช่องทางอีเมล์ หรือ เว็บไซต์ ซึ่งใช้เวลานานกว่าปัญหาจะถูกแก้ไข
• ไม่มีการส่งพนักงานมาอบรมการใช้งานอย่างถูกวิธีให้กับพนักงานโรงแรม ทำให้ใช้ระบบได้ไม่เต็มประสิทธิภาพ
โปรแกรมโรงแรมแบบServerบนดิน
• การแก้ไขปัญหาและการให้บริการมีประสิทธิผลมากกว่า มีช่องทางทางเลือกให้ลูกค้าตามแต่ความสำคัญของปัญหาโดยไม่จำกัดอยู่ที่การแก้ปัญหาผ่านอีเมล์
• มีการส่งพนักงานเข้ามาบริการหน้าไซท์งาน ไม่ว่าจะเป็นการแก้ปัญหา หรือการอบรมการใช้งาน

สำหรับการบริการ โปรแกรมโรงแรมแบบServerบนดิน ดูจะมีการให้บริการที่เข้าถึงและรวดเร็วมากกว่า แตกต่างกับโปรแกรมโรงแรมแบบCloud(SaaS)ที่มีช่องทางการบริการจำกัด

*download PDF version cloud-vs-ground

ขอบคุณที่สละเวลาอ่านครับ ถ้าคิดว่าบทความนี้เป็นประโยชน์ก็ช่วยแชร์เป็นกำลังใจให้เราด้วยนะครับ :)

Subscribe ก่อนพลาดบทความดีๆ