จากกราฟด้านซ้าย แสดงรายได้จากการท่องเที่ยว ระหว่างปี 2015 และ 2016 จะเห็นว่า ในปี 2015 มีรายได้อยู่ที่ 7,914 ล้านบาท ส่วนในปี 2559 รายได้อยู่ที่ 7,041 ล้านบาท ซึ่งลดลงจากปี 2558 อยู่ที่ 11.02% โดยปัจจัยที่ต่างกัน มีเพียงวันหยุด คือ ปี 2558 มีวันหยุดยาว 5 วัน(31 ธันวาคม 1-4 มกราคม 2558) ในขณะที่ปี 2559 มีวันหยุดยาว 4 วัน(31 ธันวาคม 1-3 มกราคม 2559) เปรียบเทียบกับกราฟด้านขวา ที่แสดงรายได้ตลอดทั้งเดือนมกราคม จะเห็นว่าในปี 2558 มีรายได้ 44,319 ล้านบาทส่วนปี 2559 มีรายได้อยู่ที่ 50,055 ล้านบาท ซึ่งเพิ่มขึ้นจากปีที่แล้ว 12.94%
ขอขอบคุณข้อมูลทางสถิติจาก : prachachat
ทั้ง 2 กราฟข้างต้นส่งสัญญาณอะไรถึงวงการโรงแรมได้บ้าง
1.วันหยุดยาวอาจไม่ใช่ปัจจัยหลักที่คนเลือกท่องเที่ยว
จากกราฟถึงในช่วงเทศกาลปีใหม่ จะมีวันหยุดต่างกันแค่วันเดียว รายได้ก็หายไปกว่า 800 ล้านบาท แต่ ในเดือนเดียวกันปี 2559 ที่มีวันหยุดน้อยกว่า กลับสร้างรายได้ตลอดทั้งเดือนได้มากกว่าประมาณ 5,000 ล้านบาท เห็นได้ว่าวันหยุดยาวอาจไม่ได้เป็นปัจจัยหลักที่คนเลือกออกมาท่องเที่ยว เรื่องนี้ทำให้ทุกโรงแรม ต้องเตรียมความพร้อมตลอดเวลา หากวางแผนดีๆ โรงแรมของคุณก็จะไม่มีหน้าโลว์อีกต่อไป
2.อัตราการท่องเที่ยวเพิ่มขึ้น
สืบเนื่องจากข้อที่แล้ว รายได้ตลอดทั้งเดือนที่เพิ่มมากขึ้นกว่า 5,000 ล้านบาท แสดงถึงความคึกคักของสถานการณ์การท่องเที่ยว ที่เปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้น ธุรกิจการท่องเที่ยวกลายเป็นเส้นเลือดใหญ่ของประเทศในขณะนี้ ทำให้ภาครัฐหานโยบายมากระตุ้นการท่องเที่ยว ส่งผลให้อัตราการท่องเที่ยวเพิ่มมากขึ้น ถือเป็นโอกาสของธุรกิจโรงแรม และห้องพักที่นำนโยบายเหล่านี้มาดึงดูดนักท่องเที่ยวได้
แล้วโรงแรมของคุณล่ะ รายได้ช่วงวันหยุดยาวแตกต่างจากช่วงที่ไม่มีวันหยุดมากน้อยแค่ไหน แล้วข้อมูลเบื้องต้นส่งผลอย่างไรกับโรงแรมของคุณบ้าง
ไม่พลาดทุกข่าวสาร บทความดีๆ อัพเดทโดนๆ กรอกอีเมล์ลงในช่องด้านล่างนี้ได้เลย แล้วทุกสิ่งทุกอย่างจะถูกส่งไปในเมล์ของคุณ
[mc4wp_form id=”1533″]
หรือแอดLINEมาที่ @smartfinder หรือ scan QR code ได้เลย