1. อยู่ในตลาดหลักทรัพย์
การระดมทุนเป็นเรื่องง่ายกว่า พอเงินหนา ก็มีพาวเวอร์พอที่จะทำอะไรๆอย่างที่ต้องการ ทำให้การเติบโตมีอัตราเร่งสูง
2. ไม่เคยมีภาพลักษณ์แย่ๆให้ได้เห็น
ดุสิตธานีเป็นแบรนด์หนึ่งที่รักษาภาพลักษณ์ของแบรนด์ได้ดีมาก ไม่เคยมีข่าวเสียๆหายๆหลุดออกมาให้เห็น จุดนี้ทำให้ได้คะแนนบวกในสายตาแขกไปเต็มๆ
3. มีแหล่งป้อนคนคุณภาพเข้าองค์กรเป็นของตัวเอง
เป็นโปรเจ็กต์ที่ใครก็ไม่คาดคิดในการสร้างสถาบันวิทยาลัยดุสิตธานีขึ้นมา แต่ผลที่ได้รับต้องบอกเลยว่าสุดยอดจริงๆ ฝึกอบรมนักศึกษาในแบบดุสิต จบมาก็พร้อมทำงานได้เลย แล้วคนยังมีคุณภาพในแบบที่ตัวเองต้องการอีก
4. เป็นแบรนด์ไทยที่มีประสปการณ์มากกว่าใคร
เป็นแบรนด์เก่าแก่ที่เปิดมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2513 ผ่านร้อนผ่านหนาวมามากมาย ทำให้มีประสปการณ์มากกว่าแบรนด์อื่นๆ
5. มีจุดยืนของแบรนด์ชัดเจน
รักษาจุดยืนตัวเองให้มีความชัดเจน เป็นสัญลักษณ์ของความเรียบหรูของโรงแรมแบรนด์ไทย
6. การจัดการภายในมีประสิทธิภาพสูง
การจัดการเป็นกุญแจสำคัญของทุกธุรกิจที่ประสบความสำเร็จ ดุสิตธานีก็เช่นกัน
7. รักษามาตรฐานการบริการได้สม่ำเสมอ
Consistencyเป็นสิ่งสำคัญสำหรับธุรกิจบริการที่มีหลายสาขา การรักษาระดับมาตรฐานไม่ให้แตกต่างกันในแต่ละสาขาเป็นเรื่องที่ทำได้ยากถึงยากมาก แต่ดุสิตสามารถทำได้ เอาสิ!
8. ไม่ลืมเอกลักษณ์ความเป็นไทย
ดุสิตธานียังคงใส่ความเป็นไทยลงไปทุกๆย่างก้าวของการทำธุรกิจ ไม่เหมือนแบรนด์อื่นที่พยายามจะทำตัวให้มีความอินเตอร์ ทำให้ดุสิตมีภาพลักษณ์ที่เป็นตัวของตัวเอง ซึ่งทำให้แตกต่างกับคนอื่น
9. แขกมีความจงรักภักดีในตัวแบรนด์สูง
ส่วนหนึ่งที่ดุสิตมีวันนี้ได้ก็เพราะแขกมีความเชื่อมั่นในแบรนด์ดุสิตสูง มีความจงรักภักดีสูง นี่แสดงให้เห็นถึงความสำคัญในการสร้างLoyaltyซึ่งโรงแรมอื่นสามารถนำไปเป็นแบบอย่างได้
10. โกอินเตอร์
ไม่ใช่แค่ประเทศเพื่อนบ้าน แต่ดุสิตไปดูไบ(UAE) ไปจีน ตะวันออกกลาง ซึ่งประเทศหรือภูมิภาคเหล่านี้เป็นตลาดที่ค่อนข้างหินเลยทีเดียว ยิ่งเป็นการตอกย้ำถึงคุณภาพของแบรนด์ Dusit Thani
ประวัติ J.W. Marriott
ประวัติ Conrad Hilton
ขอขอบคุณรูปภาพจาก Dusit.com
อัพเดทบทความตรงถึงเมล์คุณ