ทั้งโรงแรมและรีสอร์ตต่างก็เป็นที่พัก ที่เปิดให้แขกมาจองและพักผ่อนด้วยกันทั้งคู่ แต่อะไรที่ทำให้ทั้งคู่ถูกเรียกไม่เหมือนกัน ไปไขข้อข้องใจพร้อมกันได้เลย!

รีสอร์ตคืออะไร?

สมมติว่าพี่สมาร์ท ไปจองห้องพักที่ swiss valley hip resort และต้องการพาครอบครัวไปพักผ่อนด้วย มีทั้งคุณตา คุณยาย คุณพ่อ คุณแม่ แฟน และหลาน แน่นอนว่าต้องการอยู่ด้วยกันทั้งหมด จึงเลือกพักเป็นบ้าน 1 หลังที่มีสระว่ายน้ำส่วนตัว พอไปถึงก็พบว่าที่นี่ค่อนข้างแยกออกมาจากตัวเมือง ภายในรีสอร์ตเป็นทุ่งหญ้ากินพื้นที่ยาวไปสุดลูกหูลูกตา มีเนินเขาเล็กๆ สลับกับพื้นราบ เหมาะกับการเล่นกอล์ฟ อีกทั้งยังมีร้านอาหารหลากหลายสไตล์

ด้านกิจกรรมก็ไม่น้อยหน้า คุณตาคุณยายไปซาวน่า คุณพ่อไปสนามกอล์ฟ คุณแม่ไปชมไร่องุ่น แฟนและหลานไปให้อาหารแกะและไปสระว่ายน้ำ ส่วนแมนๆ อย่างพี่สมาร์ทก็ไปเล่นฟิตเนตและยิงธนู ตกเย็นทุกคนก็กลับมาเจอกันที่บ้านพัก เรียกได้ว่ามีบริการครอบคลุมทุกเพศทุกวันเลยทีเดียว

หรือถ้าไม่อยากออกไปไหน ก็จะมีพื้นที่ให้ออกมานั่งรับลมชมวิวภูเขา พร้อมจิบกาแฟยามเช้าแบบชิลๆ เพราะบ้านพักแต่ละหลังค่อนข้างจะห่างกัน แต่ล้อมรอบไปด้วยธรรมชาติที่สวยงามภายในรีสอร์ตเหมือนกัน

แน่นอนว่ากว่าทุกคนจะตัดใจกลับบ้านกันได้ ก็กินเวลาไปหลายคืน

ภาพจาก swiss valley hip resort 

 

ทีนี้มาดูในส่วนของโรงแรมกันบ้างดีกว่า

พี่สมาร์ทมีโอกาสไปกระบี่หลายครั้ง เพราะมีลูกค้าหลายแห่งต้องการให้ไปนำเสนอ โปรแกรมโรงแรมส่วนหน้า(Front Office) รอบนี้พี่สมาร์ทไปคนเดียว เลยไปจองห้องพักที่ Lario Hotel ที่อยู่อ่าวนาง เพราะไม่ได้เอารถส่วนตัวไป และการเดินทางค่อนข้างสะดวก

จองอยู่ 1 คืน เพราะวันต่อมาต้องรีบกลับไปทำงานต่อ แต่ก็ได้มีโอกาสไปเดินเล่นแถวหาดอ่าวนาง เพราะที่นี่ค่อนข้างอยู่ใกล้กับหาดอ่าวนางมาก

ก่อนจะกลับก็โชคดี ได้เห็นคู่รักชาวต่างชาติมาจัดงานแต่งงานด้วย แต่อยู่ได้ไม่นาน ก็ต้องขึ้นรถตู้ไปที่สนามบิน เป็นอันจบทริป

ภาพจาก Lario Hotel 

 

พอจะเห็นความแตกต่างระหว่างรีสอร์ตและโรงแรมมั้ยครับ?

จากที่พี่สมาร์ทยกตัวอย่างมา สามารถแยกความแตกต่างระหว่างรีสอร์ตกับโรงแรมได้ดังนี้

1.วัตถุประสงค์ในการสร้าง

โรงแรมจะมีที่พักและอาหาร ซึ่งจะมีระดับสิ่งอำนวยความสะดวกที่แตกต่างกันไป ขึ้นอยู่กับราคาและระดับดาว

สำหรับรีสอร์ต จะมีอาหารและสิ่งอำนวยความสะดวกพื้นฐานเช่นเดียวกับโรงแรม ต้องการให้เป็นสถานที่พักผ่อนที่มีความสะดวกสบาย ผ่อนคลาย โดยไม่ต้องออกไปจากรีสอร์ตเลย เพราะมีให้ครบหมดแล้ว

2.ทำเลที่ตั้ง

โรงแรมมักจะอยู่ใจกลางเมืองหรือสถานที่ที่มีคนพลุกพล่าน เดินทางสะดวก ในขณะที่ รีสอร์ตมักจะอยู่ห่างไกลจากผู้คน เพราะต้องการความสงบ ใกล้ชิดธรรมชาติ มีสภาพแวดล้อมสวยงาม พื้นที่กว้างขวาง และมีการจัดกิจกรรมต่างๆ ภายในรีสอร์ต

3.ลักษณะที่พัก

โรงแรมมักจะเป็นตึกหลายชั้นและมีห้องพักหลายห้องในแต่ละชั้น ในขณะที่รีสอร์ตจะทำเป็นบ้านพัก แยกเป็นหลังๆ เพื่อความเป็นส่วนตัว

เพราะฉะนั้นจำนวนห้องพักของโรงแรมส่วนใหญ่จึงมีมากกว่ารีสอร์ต

4.กลุ่มลูกค้า

จุดมุ่งหมายสำหรับคนที่จะมาพักก็แตกต่างกันไปด้วย

ถ้าเป็นรีสอร์ตส่วนใหญ่มักจะมากันเป็นหมู่คณะหรือเป็นครอบครัว เพราะมีกิจกรรมให้ทำเยอะกว่าโรงแรม ส่วนโรงแรมจะเหมาะสำหรับคนที่มาติดต่อเรื่องธุรกิจ หรือจัดงานต่างๆ ต้องการแค่สถานที่พัก ไม่ได้ต้องการกิจกรรมอื่นๆ นอกเหนือจากที่พักและอาหาร ส่วนใหญ่แล้ว คนจึงมักจะพักที่รีสอร์ตเป็นระยะเวลานานกว่าโรงแรม

อย่างไรก็ตาม สิ่งที่เหมือนกันของทั้งโรงแรมและรีสอร์ต ก็คือ ต่างก็มีสิ่งอำนวยความสะดวกเหมือนกัน เช่น ฟรีWi-Fi, ที่จอดรถฟรี, รถรับ-ส่งสนามบิน ฯลฯ

 

ถ้าจะพูดให้เข้าใจง่ายๆ รีสอร์ตก็เป็นโรงแรมประเภทหนึ่ง แต่เป็น “โรงแรมเพื่อการพักผ่อน” นั่นเอง โดยที่รีสอร์ตสามารถมีทุกอย่างเหมือนกับโรงแรมได้ แต่โรงแรมไม่สามารถมีทุกอย่างเหมือนรีสอร์ตได้ เราจึงมักจะเห็นโรงแรมเน้นจุดขายไปที่ ‘ความหรูหรา’ ในขณะที่รีสอร์ตจะเน้นไปที่ ‘ธรรมชาติ’ ซะเป็นส่วนใหญ่

หวังว่าบทความนี้จะทำให้ทุกคนเข้าใจความแตกต่างระหว่าง ‘รีสอร์ต’ กับ ‘โรงแรม’ ได้นะครับ

เรียบเรียงโดย : http://smartfinder.asia/

แหล่งที่มา :

https://www.quora.com/What-is-the-difference-between-a-resort-and-a-hotel

http://www.manaopdx.com/

 

ไม่พลาดทุกข่าวสาร และบทความดีๆ จาก Smart Finder อัพเดทตรงถึงเมล์คุณ เพียงแค่กรอกอีเมล์ลงไปในช่องด้านล่างเท่านั้น
[mc4wp_form id=”1533″]

จัดทำโดย Smart Finder

Smart Finder a hotel software leader, modern innovative and best choice for your hotel.
Smart Finder ผู้นำด้านซอฟต์แวร์โรงแรมที่ทันสมัย และเป็นทางเลือกที่ดีที่สุดสำหรับโรงแรมของคุณ