คุณคิดจะสร้างโรงแรมอยู่หรือเปล่า มีความรู้แค่ไหนกับกฎหมายอาคารบ้านเรา คำว่า “โรงแรม” ตามพระราชบัญญัติโรงแรม พ.ศ. 2547 หมายถึง สถานที่พักที่จัดตั้งขึ้นโดยมีวัตถุประสงค์ทำธุรกิจเพื่อให้บริการที่พักชั่วคราว สำหรับคนเดินทาง หรือบุคคลอื่นใดโดยมีค่าตอบแทน

สรุป องค์ประกอบของโรงแรม ได้ดังนี้

1.เป็นสถานที่พัก
2.มีวัตถุประสงค์ในทางธุรกิจ
3.สำหรับคนเดินทาง หรือบุคคลอื่นใด
4.เรียกเก็บค่าที่พักต่ำกว่าเดือน
หากมีครบทั้ง 4 ข้อนี้ จะต้องยื่นขออนุญาตประกอบธุรกิจโรงแรมตามกฎหมาย(ครอบคลุมทั้งโรงแรม เกสต์เฮ้าส์ รีสอร์ท บ้านพักตากอากาศ รวมถึงเซอร์วิสอพาร์ตเมนต์ที่ให้เช่าเป็นรายวัน และรายสัปดาห์ด้วย) ทีนี้มาดูกฎหมายโรงแรม ฉบับเข้าใจง่ายกัน
เรื่องของพื้นที่
ที่ตั้งต้องไม่อยู่ใกล้สถานที่ราชการหรือสถานที่สำหรับปฏิบัติพิธีกรรมทางศาสนา ในรัศมี 100 เมตร
เรื่องของที่จอดรถ
โรงแรมต้องมีสถานที่จอดรถกลับรถ ให้เพียงพอกับจำนวนห้องพัก โดยต้องอยู่แยกส่วนออกต่างหากจากบริเวณห้องพักไม่ให้ปะปนกัน
เรื่องของความปลอดภัย
ต้องมีแผนผังแสดงทางหนีไฟไว้ในแต่ละชั้นของโรงแรม และห้องพักทุกห้อง และป้ายทางออกฉุกเฉินไว้ในแต่ละชั้นของโรงแรม
เรื่องของความโปร่งใส

  • ต้องมีป้ายชื่อโรงแรมติดไว้หน้าโรงแรม และต้องมีชื่อขึ้นต้นด้วยคำว่า “โรงแรม”
  • ต้องมีเลขที่ประจำห้องพักติดไว้ที่หน้าห้องพักทุกห้อง และจะต้องเป็นเลข อารบิค
  • แสดงอัตราค่าที่พักไว้ในที่เปิดเผยเห็นได้ง่ายในโรงแรม
  • แสดงใบอนุญาตไว้ในที่เปิดเผยเห็นได้ง่ายในโรงแรม
  • การบันทึกรายการต่างๆ เกี่ยวกับผู้พัก และจำนวนผู้พัก ต้องเก็บรักษาไว้เป็นเวลาอย่างน้อย 1 ปี และต้องอยู่ในสภาพที่สามารถตรวจสอบได้
  • เมื่อเข้าใจกติกาแล้ว ก็ไปขออนุญาตประกอบธุรกิจโรงแรม โดยที่ตั้งในกรุงเทพฯ ให้ยื่นที่ศูนย์บริการประชาชน กรมการปกครอง จากกรมการปกครองกระทรวงมหาดไทยได้เลย ส่วนที่ตั้งในจังหวัดอื่น ให้ยื่นที่ว่าการอำเภอในท้องที่ที่ตั้งของโรงแรม ในวัน และเวลาราชการนะ

    ***หมายเหตุ กฎหมายโรงแรมฉบับย่อนี้ เป็นข้อควรรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับการทำโรงแรมเท่านั้น

    อ้างอิงจาก : สํานักการสอบสวนและนิติการ กรมการปกครอง

    ไม่พลาดทุกข่าวสาร บทความดีๆ อัพเดทโดนๆ กรอกอีเมล์ลงในช่องด้านล่างนี้ได้เลย แล้วทุกสิ่งทุกอย่างจะถูกส่งไปในเมล์ของคุณ
    [mc4wp_form id=”1533″]
    หรือแอดLINEมาที่ @smartfinder