เทคโนโลยีสำหรับโรงแรมเป็นสิ่งจำเป็น ทำให้โรงแรมสามารถเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน และยังมีประโยชน์อีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็นด้านการจัดการ ด้านการตลาด หรือ การบริหาร แต่เทคโนโลยีที่โรงแรมของคุณใช้อยู่มีความทันสมัยพอหรือไม่ที่จะรับมือกับความเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยีที่เกิดขึ้นบนโลกทั้งในตอนนี้ และอนาคต เรามาดูกันว่าแนวโน้มของเทคโนโลยีสำหรับโรงแรมจะเป็นอย่างไรและจะมีอะไรบ้างในอนาคต
1. Mobile Technology
Find more statistics at Statista
ในปี2015มีผู้ใช้สมาร์ทโฟนมากถึง1859ล้านคน แล้วมีแนวโน้มที่จะเพิ่มขึ้นไปถึง2082ล้านคนในปี2016 ในขณะเดียวกัน ปี2013เป็นปีที่เป็นจุดเปลี่ยนสำคัญของการผ่านเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้เทคโนโลยี จากคอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะ มาเป็นการใช้สมาร์ทโฟน ซึ่งในปี2013 จำนวนผู้ใช้สมาร์ทโฟนได้แซงหน้าผู้ใช้คอมพิวเตอร์แบบตั้งโต๊ะ(Desktop PCs)
เนื่องด้วยสมาร์ทโฟนสมัยนี้มีความสามารถที่ไม่ได้ด้อยกว่าคอมพิวเตอร์ตัวใหญ่เลย คุณสามารถทำอะไรก็ได้ด้วยโทรศัพท์เครื่องเล็กๆ อะไรๆก็สะดวกสบายมากขึ้น ซึ่งนี่เป็นเหตุผลหลักที่คนหันมานิยมใช้สมาร์ทโฟนแทนที่คอมพิวเตอร์แบบตั้งโต๊ะ
แล้วตอนนี้ คุณในฐานะที่เป็นคนโรงแรม เห็นความสำคัญของเทคโนโลยีมือถือหรือยัง? คุณเห็นโอกาสในการโต้คลื่นไปกับพฤติกรรมของผู้บริโภคที่เปลี่ยนไปไหม?
คุณอาจสงสัยว่าแล้วโรงแรมของคุณจะนำMobile Technologyไปใช้ในโรงแรมอย่างไร ด้วยวิธีไหน? เรามีคำตอบ มาดูกันเลย
Mobile Technologyสามารถนำไปใช้ได้อย่างไรบ้าง…
ใช้ในการเพิ่มมูลค่าในการบริการแก่แขกของคุณ
– Mobile Booking
ให้แขกจองโรงแรมของคุณผ่านแอพพลิเคชั่นมือถือ แขกสามารถจองได้สะดวกมากขึ้น เพิ่มโอกาสในการขายห้องด้วยการเปิดให้แขกจองระหว่างเดินทาง(On-the-move Booking)
– Online Check-in/out
แนวคิดในการให้แขกเช็คอินหรือเช็คเอาท์ผ่านมือถือจะถูกนำมาใช้มากขึ้น มันสามารถช่วยลดขั้นตอน ลดเวลาในการเช็คอินเช็คเอาท์ โดยการข้ามขั้นตอนที่Front Desk ทำให้แขกไม่ต้องเสียเวลาอย่างที่เคย เมื่อแขกเดินทางมาถึงก็สามารถเข้าห้องพักได้เลย
– Mobile Guest Services
คือการให้บริการผ่านSmart Phoneอีกรูปแบบหนึ่งระหว่างที่แขกกำลังเข้าพักอยู่ที่โรงแรม โดยแขกสามารถสั่งอาหาร เครื่องดื่ม หรือ ซื้อบริการที่คุณจัดไว้ ผ่านแอพพลิเคชั่นของคุณ
– Mobile Payment
ใช้ในการเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน
– เพิ่มความคล่องตัวในการทำงาน
– ใช้ในหลากหลายแผนก เช่น แม่บ้าน Front Desk ฝ่ายขาย
– ดูรายงานผ่านมือถือ
– ทำงานต่างๆเกี่ยวกับโรงแรมผ่านมือถือ
2. Intelligent Booking Engine
ระบบจองบนเว็บไซต์โรงแรมต้องไม่ทำได้แค่จอง แต่ต้องรวมเครื่องมือต่างๆทางการตลาดเข้าไว้ด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็น
– ระบบจองหลัก
– ระบบขายเซอร์วิสและอัพเกรดเพิ่มเติม
– ระบบYield Management
– ระบบจ่ายเงิน
ซึ่งการมีระบบจองที่ชาญฉลาดสามารถช่วยให้โรงแรมสามารถหารายได้เข้าโรงแรมมากขึ้นผ่านของทางDirect Bookingซึ่งจะเป็นประโยชน์ในการลดการพึ่งพาOTAsให้น้อยลง
3. Website is the key
โรงแรมที่ทำการตลาดออนไลน์ด้วยช่องทางของตัวเองสำเร็จจะมีอัตราการทำกำไรสูงกว่าโรงแรมที่ใช้ช่องทางของคนอื่นในการหาลูกค้า เว็บไซต์ของโรงแรมจะเป็นคีย์แมนในการปิดการขายซึ่งจะเป็นด่านสุดท้ายที่จะConvertลูกค้าจากทุกช่องทางออนไลน์ของโรงแรม ไม่ว่าลูกค้าจะมาจากสื่อโซเชียลมีเดียต่างๆ เช่น Facebook หรือการที่ลูกค้าเข้ามาจากการแนะนำผ่านMeta Search เช่น TripAdvisor สุดท้ายเว็บไซต์โรงแรมจะเป็นที่สุดท้ายที่แขกจะต้องเข้ามาเพื่อยืนยันการจอง
คุณสมบัติของเว็บไซต์โรงแรมที่ดีต้องมีอะไรบ้าง คุณสามารถตามไปอ่านได้ที่ คลิก
4. Integrated Reservations
ด้วยช่องทางการตลาดที่มีมากขึ้น แขกก็มาจากหลากหลายแหล่งมากขึ้น โรงแรมต้องมีระบบที่ช่วยจัดการข้อมูลการจองต่างๆอย่างเป็นระบบและชาญฉลาด ระบบที่ช่วยจัดการข้อมูลการจองต้องทำให้โรงแรมสามารถจัดการข้อมูลได้จากที่เดียว ช่วยลดเวลาในการจัดการ ลดขั้นตอนการทำงาน และช่วยลดความผิดพลาดที่เกิดจากการจัดการข้อมูลที่ไม่มีประสิทธิภาพโดยคน
ข้อมูลการจองจากช่องทางต่างๆต้องถูกรวมไว้ในที่เดียว ที่โปรแกรมโรงแรมหลัก(PMS) ไม่ว่าจะมาจาก
• Website
• Social Media
• OTAs
• Paid Ads
• Referral Marketing
• การตลาดแบบดั้งเดิม(Traditional sources)
ผู้ให้บริการPMSจะเป็นตัวหลักในการทำให้สิ่งนี้เกิดขึ้น เพราะผู้ให้บริการPMSจะต้องมีการInterfaceกับระบบต่างๆเพื่อดึงข้อมูลจากช่องทางต่างๆเข้ามากองไว้ในระบบเพื่อให้โรงแรมสามารถจัดการข้อมูลการจองผ่านPMSที่เดียว
5. Internet of Things
เทคโนโลยีInternet of Thingsอาจดูเป็นเรื่องไกลตัวสำหรับโรงแรม แต่รับรองว่าในอนาคตยังไงก็หนีไม่พ้นอย่างแน่นอน Internet of Thingsคือเทคโนโลยีที่ทำให้อุปกรณ์ต่างๆสามารถคุยกันได้ ทำให้อุปกรณ์ต่างๆมีสมองขึ้นมา ช่วยให้ทุกสิ่งทุกอย่างเกิดความเป็นอัตโนมัติโดยที่มนุษย์อย่างเราไม่ต้องไปยุ่งกับมันเลย
ซึ่งหากลองดูว่าในโรงแรมมีอุปกรณ์อะไรบ้าง ก็นับว่ามีอยู่เยอะมากที่สามารถนำIoTมาใช้ประโยชน์ ไม่ว่าจะเป็นประตู ทีวี เครื่องปรับอากาศ ตู้เย็น โทรศัพท์ โอ้ย!เยอะ นับไม่หมด
ตัวอย่างสถานการณ์ของของการใช้Internet of Thingsในโรงแรมก็อย่างเช่น
– เมื่อลูกค้าเช็คอินเสร็จ พอจะเดินเข้าห้อง ประตูจะรู้ได้ทันทีว่าลูกค้าคนนั้นคือผู้เข้าพักในห้องนั้น อุปกรณ์ต่างๆก็จะทำงานพร้อมกัน แอร์เปิด ทีวีก็เปิดข้อความต้อนรับ เป็นต้น
6. Virtual Reality
เทคโนโลยีสุดล้ำในตอนนี้คงหนีไม่พ้นVirtual Reality มันคือการจำลองสภาพแวดล้อมจริง เพื่อให้ผู้ใช้สามารถเห็นภาพโดยไม่ต้องไปในสถานที่จริง ซึ่งภาพที่เห็นจะมีความเสมือนจริงอย่างมากเพราะเป็นภาพสามมิติ นอกจากเห็นภาพแล้ว ยังสามารถใส่เสี่ยงเพื่อเพิ่มความสมจริงเข้าไปได้อีก
แล้วโรงแรมสามารถนำไปใช้ได้อย่างไร?
โรงแรมสามารถนำไปใช้ในการตลาดโดยให้ลูกค้าที่สนใจจะเข้าพักโรงแรมสวมใส่แว่นสำหรับVirtual Realityเพื่อสำรวจโรงแรมของคุณในแบบจำลองก่อนเข้าพัก เพื่อให้เห็นภาพจริง บรรยากาศจริง ที่ถูกจำลองขึ้นมา นี่ก็นับว่าเป็นอีกวิธีหนึ่งที่คูลมากๆในการทำตลาด
7. Revenue Generation Is the Ultimate Goal
ระบบITในโรงแรมต้องไม่ใช่แค่ช่วยในการสร้างความมีประสิทธิภาพในการบริหารงานเพียงอย่างเดียวอีกต่อไป ระบบITโรงแรมยุคใหม่ต้องช่วยโรงแรมหาเงินได้ด้วย ซึ่งนี่คือเป้าหมายของระบบITโรงแรมยุคนี้ เป้าหมายเก่าคือการช่วยโรงแรมจัดการข้อมูลได้ถูกข้ามผ่านไปแล้ว ถือว่าเป็นคุณสมบัติมาตรฐาน
แต่ระบบที่ช่วยโรงแรมหาเงินได้จะช่วยโรงแรมอย่างมากในการสร้างความได้เปรียบทางการแข่งขัน ช่วยแบ่งเบาภาระ ค่าใช้จ่ายของโรงแรมในการทำการตลาด และเทคโนโลยีนี้จะเปลี่ยนเกมการแข่งขันของโรงแรมไปตลอดกาล โรงแรมที่ยังจมอยู่กับเทคโนโลยียุคเก่าจะสู้โรงแรมที่ยอมรับและปรับตัวให้เข้ากับเทคโนโลยียุคใหม่ไม่ได้
Download as PDF
[caldera_form id=”CF5742c70d93fd1″]
Source(s):
eMarketer – http://www.statista.com/statistics/330695/number-of-smartphone-users-worldwide/
Smart Insights – http://www.smartinsights.com/mobile-marketing/mobile-marketing-analytics/mobile-marketing-statistics/
บทความอัพเดทส่งตรงถึงเมล์คุณ