สำหรับงาน Lost & Found นั้น ส่วนใหญ่แล้วจะถูกรวมอยู่ในหน้าที่ของแม่บ้าน แต่บางครั้งก็อาจจะเป็นผู้พบเห็นท่านอื่นด้วย ในบทความนี้จะพูดถึงกรณีที่ผู้พบเห็นเป็นคนโรงแรม ซึ่งหลายโรงแรมมักจะปล่อยให้พนักงานทำกันเอง ไม่ได้มีวิธีการจัดการที่ถูกต้อง จึงมักจะส่งผลกระทบตามมาภายหลังครับ
Lost & Found คืออะไร?
Lost & Found เป็นงานเก็บและรักษาของที่แขกลืมทิ้งไว้ ด้วยความหมายของ Lost ที่แปลว่า สูญหาย และ Found ที่แปลว่า พบ งานนี้จึงเป็นงานที่เก็บสิ่งที่แขกลืมเอาไว้ เพื่อรอให้แขกได้พบกับของชิ้นนี้อีกครั้งนั่นเอง ที่สำคัญคือ แขกมักจะอุ่นใจได้ว่าเวลาลืมอะไร ก็จะมีคนที่ทำหน้าที่ Lost & Found คอยเก็บรักษาของให้ปลอดภัยอยู่ จึงไม่เพียงแต่โรงแรมเท่านั้นที่มีงานนี้ สถานที่อื่นๆ เช่น สนามบิน ก็มีคนที่ทำหน้าที่นี้เช่นกัน หรือถ้าจะมีเป็นแผนกเลยด้วยซ้ำ
ทำไมคนโรงแรมมักจะทำผิดวิธี?
ถ้าสมมติว่า มีกรณีที่แขกลืมของมีค่าเอาไว้ใน Safety Box เมื่อแม่บ้านมาเจอ จะทำอย่างไร?
A : แม่บ้านรีบนำของที่พบใน Safety Box ไปส่งให้หัวหน้าแม่บ้าน หรือส่งให้ Lost & Found
B : แม่บ้านรีบแจ้งแผนกรักษาความปลอดภัย ผู้จัดการรอบ ให้ทุกคนเป็นพยาน พร้อมกับถ่ายรูปสิ่งของนั้นไว้ก่อนเคลื่อนย้าย หากมีหลายอย่างให้แยกออกมา เช่น เงิน บัตรเครดิต บัตรอื่นๆ ทำการจดบันทึกรายการทั้งหมดว่ามีเงินจำนวนเท่าไร สกุลเงินอะไรบ้าง บัตรมีกี่ใบ อะไรบ้าง เมื่อจดบันทึกเรียบร้อยแล้ว ให้ทุกคนในเหตุกาณ์เซ็นชื่อเป็นพยาน นำใบที่จดบันทึกเรียบร้อยแล้ว พร้อมของทั้งหมด ใส่ถุงพลาสติก และส่งให้แผนก Lost & Found
ถ้าเป็นคุณ คุณจะเลือกทำตาม A หรือ B ครับ…แน่นอนว่าคำตอบของทุกคนย่อมเป็น B อยู่แล้ว แต่ในชีวิตจริง กลับมีแต่คนทำแบบ A กันทั้งนั้น จริงไหมครับ? มาลองดูในกรณีที่มีคนมารับของกันบ้าง คุณคิดว่าวิธีไหนถูกครับ? ระหว่าง A กับ B
A : ส่งให้แขกเลย ไม่มีการขอเอกสารยืนยันตัวตน หรือให้เซ็นชื่อเพื่อรับของ เพราะจำได้ว่าเป็นแขกที่พักอยู่ห้องนั้นอยู่แล้ว
B : ขอพาสปอร์ตหรือบัตรประชาชน เพื่อให้ยืนยันตัว และให้เซ็นรับของในใบบันทึกของ Lost & Found
หวังว่าจะเลือกข้อ B กันนะครับ
สาเหตุที่ต้องมีขั้นมีตอนให้ยุ่งยากนั้น ก็เพราะว่า ก่อนที่คนโรงแรมจะทำการเคลื่อนย้ายของโดยที่ไม่มีหลักฐานรูปถ่ายหรือพยานว่า ตั้งแต่ตอนแรกแขกทำอะไรหาย เป็นมูลค่าเท่าไรบ้าง ถ้าเจอแขกที่ไม่หวังดี อาจจะมีการตีเนียน แกล้งบอกว่าของที่ลืมไว้มีมูลค่ามากกว่านี้ หรือมีเงินอยู่ในนั้นมากกว่านี้ พนักงานขโมยของของเขาไปหรือเปล่า เป็นต้น อย่างน้อยคนโรงแรมก็มีหลักฐาน และพยานป้องกันเอาไว้ก่อนครับ หากยังไม่มีผู้มาติดต่อรับของคืนตามกำหนดระยะเวลาประมาณ 3 – 6 เดือน เมื่อพ้นกำหนดแล้วไม่มีใครถามหา (ในกรณีที่ไม่รู้ว่าเจ้าของคือใครและติดต่อไม่ได้) ก็จะคืนให้กับผู้ที่พบเห็นหรือเก็บได้แทนครับ
สิ่งสำคัญไม่ได้อยู่ที่ว่าจะมีคนทำหน้าที่นี้ หรือมีแผนกนี้หรือไม่ แต่อยู่ที่ว่าโรงแรมจะมีการจัดระบบ Lost & Found ให้ได้มาตรฐาน และสามารถตรวจสอบได้อย่างไรมากกว่า
ไม่พลาดทุกข่าวสาร และบทความดีๆ จาก Smart Finder อัพเดทตรงถึงเมล์คุณ เพียงแค่กรอกอีเมล์ลงไปในช่องด้านล่างเท่านั้น
[mc4wp_form id=”6960″]
จัดทำโดย Smart Finder
Smart Finder a hotel software leader, modern innovative and best choice for your hotel.
Smart Finder ผู้นำด้านซอฟต์แวร์โรงแรมที่ทันสมัย และเป็นทางเลือกที่ดีที่สุดสำหรับโรงแรมของคุณ