ถ้าพูดถึงคำว่า Poshtel อาจจะเป็นคำที่ไม่คุ้นหูในบ้านเรามากนัก แต่ถ้าพูดถึง โฮสต์เท็ล(Hostel)ละก็ ทุกวันนี้คงไม่มีใครไม่รู้จัก Hostelคืออะไรเข้าไปอ่านกันได้ที่นี่

ปัจจุบันจำนวนHostelที่มีอยู่ทั่วโลกมีอยู่ประมาณ4,000แห่ง อ้างอิงจากองค์กรธุรกิจโฮสเทลนานาชาติ(global organization Hostelling International)

Poshtelที่จริงแล้วลักษณะโดยรวมมันก็คล้ายๆกับHostelนั่นแหละ แต่มันคือเวอร์ชั่นอัพเกรดของHostelที่มีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน ไม่ว่าจะห้องอาหาร บาร์ Wifi

Poshtel มาจากคำว่า Poshที่แปลว่ามีระดับ + (Ho)telที่แปลว่าโรงแรม ผสมกันจึงกลายเป็นPoshtelอย่างที่เห็น

Poshtelคือการรวมกันระหว่างความหรูหราในแบบของโรงแรมในสไตล์luxuryกับความง่ายๆสบายๆของโรงแรมบูติค ด้วยราคาที่ไม่เป็นภาระเงินในกระเป๋ามากนักแบบHostel นั่นจึงเป็นที่มาของคอนเซ็ปต์Poshtel

Poshtelมีต้นกำเนิดมาจากไหน?

ที่ๆจุดประกายคอนเซ็ปต์Poshtelขึ้นมาคือยุโรป เพราะคนโรงแรมในยุโรปเล็งเห็นว่านักท่องเที่ยวกับอายุ20ต้นๆถึง30ปลายๆชื่นชอบการเข้าพักแบบHostelที่มีการแลกเปลี่ยนความคิดเห็น หรือเรียกง่ายๆว่าคุยกัน กับเพื่อนที่มาจากหลากหลายพื้นเพได้ กอปรกับการที่คนกลุ่มนี้มีรายได้ที่สูงขึ้น เริ่มมีกำลังซื้อ ก็อยากจะได้สิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆที่เหมือนเข้าพักในโรงแรมปกติ แต่ขณะเดียวกันก็ต้องการบรรยากาศเหมือนพักHostelอยู่ นั่นทำให้Poshtelถือกำเนิดขึ้นมา จากนั้นก็ได้แพร่กระจายไปสู่ที่ต่างๆทั่วยุโรป และอเมริกา

ความแตกต่างระหว่างPoshtelกับHostelมีอะไรบ้าง

สิ่งอำนวยความสะดวก

Poshtelมีสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ เช่น อินเตอร์เน็ต บาร์ ร้านอาหาร ห้องนั่งเล่น โต๊ะพูล หรือ เกมต่างๆ ซึ่งนั่นเป็นสิ่งที่ทำให้Poshtelแตกต่างจากHostelธรรมดาที่จะมีแค่สิ่งอำนวยความสะดวกพื้นฐานเท่านั้น

การตกแต่ง

จากคำว่าPoshแน่นอนว่าสไตล์การตกแต่งและวัสดุที่ใช้ต้องมีความหรูหรามีราคามากกว่าHostelทั่วไปอย่างแน่นอน การตกแต่งของPoshtelจะมีการใส่ใจรายละเอียดมากกว่า

ข้อเสนอในการเข้าพัก

Hostelส่วนมากมีข้อเสนอให้แขกที่เข้าพักจำกัด อย่างเช่นชนิดของห้องที่ต้องใช้ร่วมกันเท่านั้น หรือเตียงที่จะเป็นเตียงเปล่าๆธรรมดาสองชั้น แต่กับPoshtel บางที่ถึงขั้นมีห้องSuiteส่วนตัวมองเห็นวิวดาดฟ้าซึ่งคนละเรื่องกับHostelเลย แขกมีตัวเลือกให้เลือกหลากหลายมากกว่าการเข้าพักกับHostel

อนาคตจะเป็นอย่างไร?

เชื่อแน่ว่าPoshtelจะเป็นที่รู้จักมากกว่านี้ได้อย่างแน่นอนในภูมิภาคต่างๆทั่วโลกรวมถึงประเทศไทย เพราะคอนเซ็ปต์ของมันสามารถจับจุดพฤติกรรมผู้บริโภคได้เป็นอย่างดี รู้ว่าผู้บริโภคชอบอะไรไม่ชอบอะไร เอาของดีของโรงแรมแต่ละชนิดมายำขยำๆเพื่อให้สิ่งที่เสนอตรงกับความต้องการของกลุ่มSegmentที่ต้องการมากที่สุด คล้ายๆกับกลยุทธ์Blue Oceanที่เราเคยนำเสนอไปเลย ยังจำกันได้อยู่ไหมกับกฏ ERRC(Eliminate-Reduce-Raise-Create) มันคือการปรับแต่งข้อเสนอโดยการตัดลดเพิ่มหรือสร้าง เพื่อจับกลุ่มลูกค้ากลุ่มใหม่ที่ยังไม่มีใครทำมาก่อน ซึ่งนั่นแหละคือกลยุทธ์Blue Oceanทะเลสีฟ้า

 

gh_230414_07-940x1216

7e5b3f00bb56daca91ee93a377c90f85

generator-hostel-paris

freehand-chicago

generator-hostel-venice

แหล่งอ้างอิง
ehospitalitytimes
businessinsider
lonelyplanet
contemporist

*ร่วมเป็นแขกรับเชิญเขียนบทความกับเรา ส่งบทความของคุณพร้อมชื่อ ประวัติ หรือรายละเอียดเพิ่มเติมมาทางอีเมล์ได้เลยที่ marketing@smartfinder.asia
ไม่พลาดทุกข่าวสาร บทความดีๆ อัพเดทโดนๆ กรอกอีเมล์ลงในช่องด้านล่างนี้ได้เลย แล้วทุกสิ่งทุกอย่างจะถูกส่งไปในเมล์ของคุณ
[mc4wp_form id=”1533″]