สิ่งที่โรงแรมควรทำในช่วง”Low Season”

เมื่อพูดถึง Low Season แน่นอนว่ามันเป็นฤดูที่มีอัตราการเข้าพักต่ำ เมื่อโรงแรมมีแขกน้อยรายได้โรงแรมก็น้อย เซอร์วิสชาร์จที่พนักงานจะได้ก็น้อยตาม บางโรงแรมถึงขั้นขาดทุน ทั้งหมดนี้ก็ฟังดูแย่ใช่ไหม แต่ในวิกฤติย่อมมีโอกาสเสมอ โอกาสที่ว่ามันคืออะไรรู้ไหม? ก็ในเมื่อแขกน้อย งานก็ยุ่งน้อยลง เวลาก็เหลือมากขึ้น เริ่มเห็นหรือยังโอกาสที่ว่านั้นคืออะไร? คำตอบก็คือ”เวลา”ยังไงหละ
สิ่งที่จะบอกต่อไปนี้เป็นสิ่งที่โรงแรมทำได้ยากเมื่ออยู่ในหน้าHigh Season เพราะวันหนึ่งมีเวลาแค่24ชั่วโมง แค่คอยจัดการโรงแรมให้พร้อมที่จะรองรับจำนวนแขกที่ล้นทะลักก็แทบจะไม่พออยู่แล้ว แล้วจะเอาเวลาที่ไหนมาทำสิ่งเหล่านี้
และนี่คือสิ่งที่โรงแรมควรจะทำเหมือนเข้าสู่ช่วงLow Season

1. ทบทวนPerformanceของโรงแรมในช่วงHigh Seasonที่ผ่านมา

ลองดูว่าเป้าที่กำหนดไว้สำหรับHigh Seasonที่ผ่านมาถึงเป้าหรือไม่ ถ้าไม่ก็ต้องมาดูแล้วหละว่าต้นเหตุของปัญหาคืออะไร ต้นตอของปัญหาอาจแบ่งได้เป็นสองประเภทใหญ่ๆ คือ ปัญหาที่เกิดจากปัจจัยที่ควบคุมไม่ได้ และ ปัญหาที่เกิดจากปัจจัยที่ควบคุมได้ การที่คุณไม่รู้ว่าปัญหาที่ทำให้โรงแรมคุณมีPerformanceไม่ตรงตามเป้าหมายคืออะไร คุณก็จะไม่รู้ว่าต้องปรับแก้ตรงจุดไหน หรือต้องทำอะไรเพื่อทำให้Performanceของโรงแรมดีขึ้น สรุปว่าถ้าPerformanceของโรงแรมไม่ตรงตามเป้า อย่างแรกที่คุณต้องทำคือหาต้นตอของปัญหาให้เจอก่อน

2. เรียนรู้จากความผิดพลาดแล้ววางแผนให้ดีกว่าเดิม

เมื่อคุณรู้แล้วว่าHigh Seasonปีที่แล้วมีปัญหาอะไรบ้าง ช่วงLow Seasonนี่แหละเป็นช่วงที่เหมาะที่สุดในการนำปัญหามาวิเคราะห์ไตร่ตรองให้ถี่ถ้วน แล้วเก็บไว้เป็นCase Study เมื่อเกิดเหตุการณ์แบบนี้อีกคุณจะสามารถรับมือได้อย่างมีความพร้อม
การวางแผนที่ดีเป็นสิ่งสำคัญในการทำธุรกิจโรงแรม คุณต้องมีแผนการดำเนินงานที่ชัดเจน ไม่ว่าจะเป็นส่วนของการตลาด Operation การเงิน หรือ HR ทุกอย่างต้องสอดคล้องและดำเนินไปในทางเดียวกัน ใช้เวลาในช่วงLow Seasonให้เป็นประโยชน์ อย่าปล่อยให้เวลาผ่านไปฟรีๆ

3. ยกเครื่องและจูนแผนกๆต่างๆใหม่

การปรับเปลี่ยนครั้งใหญ่ๆ แน่นอนว่าต้องมีผลกระทบกับโรงแรมแน่นอน แต่การปรับเปลี่ยนก็เป็นสิ่งที่จำเป็นในการพัฒนาไปสู่สิ่งที่ดีกว่าเดิม ช่วงLow Seasonนี่แหละเหมาะที่สุดในการยกเครื่องวิธีการทำงานและปรับจูนแผนกต่างๆใหม่ให้สอดคล้องกับแผนที่คุณวางไว้ โดยส่งผลกระทบกับการดำเนินงานน้อยที่สุด

4. สะสมยอดจองล่วงหน้า

ช่วงLow Seasonเป็นช่วงที่คุณควรจะเน้นงานด้านการตลาดให้เยอะ เป้าหมายคือการสะสมยอดจองให้ได้มากๆเพื่อเป็นกันชนความเสี่ยงให้กับโรงแรมของคุณ อีกทั้งการทำตลาดในช่วงLow Seasonมีต้นทุนที่ต่ำกว่าเมื่อเทียบกับการทำตลาดแบบเดียวกันในช่วงHigh Season ช่วงนี้แหละเป็นโอกาสดีที่สุดที่คุณจะลุยโปรโมตหนักๆ

5. รีโนเวทหรือซ่อมบำรุงโรงแรมให้สดใหม่

เพื่อรักษาเกรดและมาตรฐานของโรงแรมให้คงที่หรือดีกว่าเดิม การรีโนเวทและซ่อมบำรุงเป็นสิ่งจำเป็น มีโรงแรมมากมายที่ทำรายได้เป็นกอบเป็นกำเมื่อเปิดใหม่ๆ แต่กลับดร็อปลงเมื่อเวลาผ่านไป จากที่เคยขายห้องละเป็นหมื่น ต้องยอมลดลงเหลือไม่กี่พันก็มี เนื่องด้วยตัวPropertyที่ดูโทรมและเก่า ลูกค้าก็ไม่อยากเข้าพัก การรีโนเวทจึงเป็นเรื่องจำเป็นเพื่อรักษาอัตราการทำรายได้ของโรงแรมให้เสถียร ไม่ตกลงไปตามกาลเวลาที่ผ่านไป

6. หาวิธีเอาชนะตลาดในช่วงLow Season

แน่นอนทุกโรงแรมล้วนได้รับผลกระทบจากช่วงLow Season แต่จะทำอย่างไรให้คุณสามารถยืนอยู่เหนือค่าเฉลี่ยในช่วงLow Season ซึ่งสามารถวัดได้จากการใช้ Market Penetration Index ในการเปรียบเทียบ
สิ่งที่คุณอาจจะทำได้คือ การลองเปลี่ยนกลุ่มลูกค้าใหม่ๆเพื่อทดแทนกลุ่มเดิมที่หายไป หรือการอัดแคมเปญการตลาดเจ๋งๆเพื่อดึงดูดแขกให้มาพักกับคุณในช่วงLow Season อันนี้ก็เป็นสิ่งที่คุณต้องคิดแล้วหละ

7. ทดลองสิ่งใหม่ๆ

คุณอาจจะมีไอเดียอะไรใหม่ๆ แต่ยังไม่แน่ใจว่าไอเดียนั้นจะเวิร์คหรือเปล่า ช่วงLow Seasonเป็นช่วงที่คุณสามารถลองผิดลองถูกได้โดยส่งผลกระทบกับโรงแรมน้อยที่สุด เพราะถ้าหากไอเดียใหม่ที่คุณนำมาใช้มันไม่เวิร์ค ผลกระทบที่เกิดมันก็ไม่หนักมากเมื่อเทียบกับการเปลี่ยนกลางคันระหว่างช่วงHigh Season

8. ติดตั้งหรือเปลี่ยนระบบITใหม่

การเปลี่ยนแปลงระบบITเป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องและส่งผลกระทบกับคนหลายกลุ่มหลายแผนกในโรงแรม และเป็นสิ่งที่เสี่ยงอย่างยิ่งเมื่อทำในช่วงHigh Seasonที่มีแขกเข้าพักในระดับสูงทุกวัน ช่วงLow Seasonนี่แหละปลอดภัยที่สุดในการเปลี่ยนแปลงหรือนำระบบITใหม่ๆมาใช้ ไม่ว่าจะเป็นการเปลี่ยนระบบPMS หรือการทำMobile Technologyเข้ามาเพิ่มมูลค่าให้กับโรงแรมของคุณ

บทความที่เกี่ยวข้อง

วิธีดึงดูดยอดจองในช่วง ‘Low Season’

อัพเดทบทความตรงถึงเมล์คุณ